นายธนะ เรืองศิลาสิงห์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่-การผลิต บมจ.ทาทา สตีล (ประเทศไทย) หรือ TSTH คาดว่า ผลประกอบการในปี 55-56 (เม.ย.55-มี.ค.56) จะยังคงขาดทุนต่อเนื่องจากปีก่อนที่ขาดทุน 1,580 ล้านบาท เนื่องจากราคาขายเหล็กปรับลดลง โดยราคาขายเหล็กเส้นก่อสร้างปรับลงตามราคาตามตลาดโลก ขณะที่ราคาขายเหล็กลวดถูกดัมพ์ราคาจากเหล็กลวดจีนที่เข้ามาขายในราคาต่ำมาก
สำหรับราคาเหล็กลวดเฉลี่ยของบริษัทฯ ปัจจุบันอยู่ที่ 21,000 บาท/ตัน ขณะที่ราคาเหล็กลวดของจีนอยู่ที่ 17,000 บาท/ตัน โดยไตรมาส 2 (ก.ค.-ก.ย.55)ราคาขายเฉลี่ยทั้งหมดจะต่ำกว่าไตรมาส 1 ที่ขายเฉลี่ย 22,900 บาท/ตัน
ส่วนปริมาณขายในไตรมาส 2 คาดว่าจะอยู่กว่าไตรมาส 1 ที่มี 2.58 แสนตัน เพราะไตรมาส 1 บริษัทฯได้รับผลกระทบจากระเบิดที่มาบตาพุดทำให้หยุดการผลิตไป 1 เดือน แต่ไตรมาส 2 ก็กลับมาผลิตปกติ โดยทั้งปีตั้งเป้าผลิตเพื่อขายที่ 1.1-1.2 ล้านตัน ส่วนจะขายจริงได้ตามเป้าหมายหรือไม่ยังไม่ทราบ เพราะมีการทุ่มตลาดของจีนเข้ามา
"ปี 55/56 การผลิตเพื่อขายถ้าเท่าเดิมคงจะยาก มาร์จินเท่าเดิมก็คงยาก เพราะสินค้าเหล็กลวดที่มาจากจีนกระทบเราอย่างรุนแรง แต่เหล็กเส้นก่อสร้าง และเหล็กเกรดพิเศษ และการส่งออกจะช่วยดึงคืนมาจากผลกระทบที่ได้รับจากเหล็กจีนทุ่มตลาด ซึ่งบริษัทฯจะต้องดึงผลประกอบการออกมาไม่ให้แย่กว่าปีก่อน"นายธนะ กล่าว
นายธนะ กล่าวต่อว่า บริษัทฯจึงตัดสินใจขอขยายเวลาโครงการผลิตเหล็กหลอมเหลว จากเดิมที่จะหยุดผลิตเดือนก.ค.ปีนี้ ตัดสินใจขยายเวลาหยุดไปจนถึงมี.ค.ปี 56 เพื่อลดต้นทุน เนื่องจากราคาวัตถุดิบที่นำมาใช้ในการผลิตมีความผันผวนมาก
นอกจากนี้ บริษัทฯอยู่ระหว่างหาพันธมิตรเพื่อที่จะมาร่วมผลิตสินค้ามาร์จินสูง เพื่อจากมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้า โดยจะให้เข้ามาร่วมถือหุ้นในบริษัท NTS steel group ซึ่งปัจจุบันบริษัท NTS มีกำลังผลิตอยู่ 60% ของกำลังการผลิต 800,000 ตัน/ปี ถ้าได้พันธมิตรมาแล้วจะเพิ่มกำลังการผลิตเป็น 80-90% ของกำลังการผลิต 800,000 ตัน/ปี โดยพันธมิตรที่กำลังเจรจาเป็นต่างประเทศ เช่น อินเดีย, ญี่ปุ่น และฝั่งยุโรป โดยขณะนี้ยังไม่ได้ข้อสรุป