นายอนุสรณ์ แสงนิ่มนวล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.บางจากปิโตรเลียม (BCP) เปิดเผยว่า หอกลั่นที่ถูกไฟไหม้จะซ่อมแซมแล้วเสร็จ และเปิดเดินเครื่องได้ในวันที่ 18 ตุลาคม 55 โดยมีกำลังการกลั่นเป็น 1.1. แสนบาร์เรล/วัน จากปัจจุบัน 4.5 หมื่นบาร์เรล/วัน
ทั้งนี้คาดว่ากำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) ในปี 55 จะได้รับผลกระทบจากหอกลั่นเกิดไฟไหม้ไม่ถึง 500 ล้านบาท จากก่อนหน้านี้ที่คาดว่า EBITDA จะลดลงเหลือ. 6.8 พันล้านบาท จากเป้าหมายเดิมที่ 7.3 พันล้านบาท
"คาดว่า EBITDA น่าจะน้อยกว่าที่คาดไว้ว่าจะลดลง 500 ล้านบาท แต่ตอนนี้คิดว่าไม่ถึง 500 ล้านบาท ก็ดูเรื่องการซ่อมให้เสร็จ เพื่อให้ค่าการกลั่นได้สูงขึ้น ไตรมาส 3 ไครมาส 4 คิดว่าไม่มี stock loss" นายอนุสรณ์ กล่าว
ส่วนปี 56 คาดว่า EBITDA จะเพิ่มขึ้นเป็น 9 พันล้านบาท (ไม่รวมสต๊อก) เพราะไม่มีการปิดซ่อมบำรุง และมี EBITDA จากธุรกิจโรงไฟฟ้าแสงอาทิตย์ 1.5 พันล้านบาท และในปี 59 บริษัทจะมีกำไรสูงสุด โดยคาดว่า EBITDA อยู่ที่. 1.3 หมื่นล้านบาท มาจากธุรกิจโรงกลั่น 7-8 พันล้านบาท มีกำลังการกลั่น 1.4 แสนบาร์เรล/วัน โรงไฟฟ้าแสงอาทิตย์ 2.8 พันล้านบสท
ทั้งนี้ค่าการกลั่นในไตรมาส 3/55 อยู่ที่ 13 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล เพราะ มีกำลังการกลั่นน้อย ส่วนในไตรมาส 4/55 คาดค่าการกลั่นอยู่ที่ 7-8 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ทำให้ค่าการกลั่นเฉลี่ยปีนี้ อยู่ที่ 7-8 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล จากเดิมคาดไว้ที่ 6-7 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล เพราะราคาน้ำมันดิบดูไบเชื่อทรงตัวเหนือ 100 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล เพราะโรงกลั่นในตลาดโลกปิดทำการหลายแห่ง
บริษัทยังมีแผนลงทุนขยายกำลังการผลิตไบโอดีเซล อีก 3 แสนลิตร/วัน จาปัจจุบันผลิตได้ 3.6 แสนลิตร/วัน โดยใช้เงินลงทุน 800 ล้านบาท สร้างโรงงานไบโอดีเซลแห่งที่ 2 ในพื้นที่เดียวกันกับแห่งแรก นอกจากนี้จะลงทุนสร้างโรงงานสกัดปาล์มน้ำมัน 300-400 ล้านบาท ขนาดกำลังผลิต 50-60 ตัน/เดือน เริ่มการก่อสร้างเมื่อพื้นทืรับผลผลิตปาล์มน้ำมันของบริษัทเพิ่มเป็น 5 หมื่นไร่ จากปัจจุบันมีประมาณ 3 หมื่นไร่ คาดใช้เวลากว่า 1 ปี