ดัชนีดาวโจนส์ล่วงหน้าดีดตัวขึ้น 68 จุด หรือ 0.5% แตะที่ 13,413 จุด ขณะที่ดัชนี S&P 500 ปรับตัวขึ้น 0.5% แตะที่ 1,434.5 จุด ณ เวลา 07.25 น.ตามเวลานิวยอร์กในวันนี้ เพราะได้แรงหนุนจากกระแสคาดการณ์ที่ว่าจีนจะใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ
การคาดการณ์ดังกล่าวมีขึ้นหลังจากสำนักงานสถิติแห่งชาติของจีน (NBS) เปิดเผยในรายงานวันนี้ว่า ผลกำไรของบริษัทอุตสาหกรรมรายใหญ่ของจีน หรือบริษัทที่มีรายได้ต่อปีกว่า 20 ล้านหยวน (3.15 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) หดตัวลง 6.2% เมื่อเทียบเป็นรายปี มาอยู่ที่ระดับ 3.812 แสนล้านหยวนในเดือนส.ค. ทำสถิติหดตัวลงติดต่อกัน 5 เดือน เนื่องจากภาวะชะลอตัวของตลาดทั้งภายในและต่างประเทศ
ส่วนในช่วง 8 เดือนแรกของปีนี้ ผลกำไรของบริษัทอุตสาหกรรมรายใหญ่ของจีน หดตัวลง 3.1% เมื่อเทียบเป็นรายปี มาอยู่ที่ระดับ 3.06 ล้านล้านหยวน
รายงานระบุว่า บริษัทอุตสาหกรรมของรัฐบาลและบริษัทที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของรัฐบาล มีกำไรลดลง 12.7% เมื่อเทียบเป็นรายปี มาอยู่ที่ระดับ 8.839 แสนล้านหยวนในช่วง 8 เดือนแรกของปีนี้ ขณะที่บริษัทอุตสาหกรรมเอกชนมีกำไรเพิ่มขึ้น 15.1% เมื่อเทียบเป็นรายปี สู่ระดับ 9.454 แสนล้านหยวน
หุ้นเอเอ็มดีพุ่งขึ้น 4.2% ขณะที่หุ้นเท็กซัส อินสตรูเมนท์ ขยับขึ้น 0.9%
ส่วนสตาร์บัคขยับขึ้น 0.5% แต่หุ้นฮิวเลตต์-แพคการ์ด ลดลง 0.9%
นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในวันนี้ โดยเวลา 19.30 น. สหรัฐจะเปิดเผยการประมาณการครั้งสุดท้ายของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ(จีดีพี) ที่แท้จริงไตรมาส 2/2555, ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนส.ค. และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ จากนั้นในเวลา 21.00 น.จะมีการเปิดเผยยอดทำสัญญาซื้อบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) เดือนส.ค.