ตลาดหลักทรัพย์ปิดตลาดช่วงบ่ายวันนี้ที่ระดับ 1,298.79 จุด เพิ่มขึ้น 12.68 จุด(+0.99%) มูลค่าการซื้อขาย 36,077.28 ล้านบาท ทั้งนี้ ดัชนีปรับขึ้นสูงสุดในรอบกว่า 16 ปี และจุดสูงสุดเดิมถัดไปอยู่ที่ 1,422.61 จุด ซึ่งเกิดขึ้นในปี 1996
การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นเคลื่อนไหวในแดนบวกตลอดทั้งวัน โดยช่วงบ่ายดัชนีฯวิ่งขึ้นเหนือระดับ 1,300 จุด จากนั้นก็อ่อนตัวลงมาเล็กน้อย โดยขยับขึ้นแตะจุดสูงสุดของวันที่ระดับ 1,300.17 จุด ส่วนดัชนีจุดต่ำสุดของวันอยู่ที่ 1,293.62 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 296 หลักทรัพย์ ลดลง 259 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 157 หลักทรัพย์
น.ส.จิตรา อมรธรรม ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวขึ้นได้แข็งแกร่งกว่าตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคที่ปรับตัวขึ้นกันทั่วหน้า มองว่าพื้นฐานของตลาดบ้านเราแข็งแกร่งกว่า จากผลกำไรของบริษัทจดทะเบียนที่ออกมาดีกว่าตลาดอื่น แม้ตัวเลขเศรษฐกิจของแบงก์ชาติออกมาแล้วการส่งออกยังชะลอตัวอยู่ แต่ก็เป็นเพียงตัวเดียวเท่านั้น ขณะที่ภาคการบริโภค และภาคการลงทุนยังดีอยู่
นอกจากนี้ ปัจจัยจากนอกประเทศยังเอื้อด้วย ทั้งเรื่องมาตรการรัดเข็มขัดของสเปนที่ได้ผ่านรัฐสภาแล้ว วันนี้ก็จะมีการโหวตเสียง ซึ่งคิดว่าไม่น่าจะมีปัญหา และตลาดฯยังขึ้นมาเก็งตัวเลข PMI ของจีนที่จะประกาศในวันที่ 1 ต.ค.นี้ ซึ่งตัวเลข PMI ของจีนที่ผ่านมาได้แย่มา 6 เดือนต่อเนื่องแล้ว และเชื่อว่าคนยอมรับสภาพนี้มากแล้ว ดังนั้นหากออกมาดีขึ้นเล็กน้อยหรือทรงตัว ตลาดฯก็จะดี แต่ถ้าออกมาแย่ คนก็หันจะไปคาดหวังมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอีก
แนวโน้มการลงทุนในสัปดาห์หน้า น.ส.จิตรา กล่าวว่า ตลาดฯยังมีโมเมนตัมดีต่อเนื่อง และมีโอกาสที่จะปรับตัวขึ้นต่อได้ แต่ระหว่างทางอาจมีแรงขายทำกำไรบ้าง อย่างไรก็ดี มองว่าดัชนีฯมีโอกาสที่จะยืน 1,300 ต้น ๆ ได้แต่ก็ขึ้นอยู่กับตัวเลข PMI ของจีนด้วย พร้อมให้กรอบการแกว่งไว้ที่ 1,280-1,300 จุด โดยแนะนำนักลงทุนที่เล่นสั้น ให้เลือกเล่นเป็นรายตัวไป
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
BAY มูลค่าการซื้อขาย 2,147.42 ล้านบาท ปิดที่ 31.25 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท
CPF มูลค่าการซื้อขาย 1,951.02 ล้านบาท ปิดที่ 33.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.75 บาท
CPALL มูลค่าการซื้อขาย 1,455.65 ล้านบาท ปิดที่ 35.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท
SCB มูลค่าการซื้อขาย 1,253.08 ล้านบาท ปิดที่ 168.50 บาท เพิ่มขึ้น 2.50 บาท
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,042.80 ล้านบาท ปิดที่ 182.50 บาท เพิ่มขึ้น 2.50 บาท