ตลาดหุ้นสหรัฐทะยานขึ้นแข็งแกร่งในวันนี้ หลังจากสหรัฐเปิดเผยดัชนีภาคการผลิตที่ขยายตัวได้ดีเกินคาด ซึ่งข้อมูลดังกล่าวสามารถสกัดปัจจัยลบที่เป็นผลมาจากความวิตกกังวลเรื่องการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก ภายหลังจากจีนเปิดเผยดัชนีภาคการผลิตที่หดตัวลง นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากการที่นักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับวิกฤตหนี้ยุโรป
ทั้งนี้ ณ เวลา 10.16 น.ตามเวลานิวยอร์กในวันนี้ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์พุ่งขึ้น 147.74 จุด หรือ 1.1% แตะที่ 13,584.87 จุด และดัชนี S&P 500 พุ่งขึ้น 1.1% แตะที่ 1,456.16 จุด
สถาบันจัดการอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยว่า ดัชนีภาคการผลิตของสหรัฐเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 51.5 ในเดือนก.ย. จากระดับ 49.6 ในเดือนส.ค. ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะอยู่ที่ 49.7 บ่งชี้ว่าภาคการผลิตของสหรัฐกลับมาขยายตัวเป็นครั้งแรก หลังจากหดตัวมาสามเดือนติดต่อกัน
ดัชนีภาคการผลิตของ ISM ที่กลับมาขยายตัวขึ้นในเดือนที่แล้วเป็นผลมาจากอุปสงค์ที่ดีดตัวขึ้น โดยดัชนียอดสั่งซื้อใหม่พุ่งขึ้นแตะ 52.3 ในเดือนก.ย. จาก 47.1 ในเดือนส.ค. และดัชนีการส่งออกเพิ่มขึ้นแตะ 48.5 จาก 47.0
นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนหลังจากผลการทดสอบภาวะวิกฤติ (stress test) ระบุว่า ธนาคารสเปนจำเป็นต้องระดมเงินทุนเพิ่มอีก 5.93 หมื่นล้านยูโร (7.63 หมื่นล้านดอลลาร์) ซึ่งตัวเลขดังกล่าวน้อยว่าที่ได้มีการประมาณการไว้ก่อนหน้านี้ โดยการทดสอบดังกล่าวมีเป้าหมายที่จะประมินความเสียหายที่มีต่องบดุลของธนาคาร อันเนื่องมาจากวิกฤตในภาคอสังหาริมทรัพย์ และการทดสอบดังกล่าวถือเป็นหนึ่งในเงื่อนไขที่จะต้องดำเนินการเพื่อแลกกับมาตรการรับความช่วยเหลือด้านการเงินมูลค่า 1 แสนล้านยูโรตามที่ตกลงกันไว้ในเดือนก.ค.ที่ผ่านมา
หุ้นโกลด์แมน แซคส์ พุ่งขึ้น 4.1% หลังจากนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า โกลด์แมน แซคส์ มีแนวโน้มที่จะเติบโตแซงหน้าสถาบันการเงินคู่แข่งรายอื่นๆ เนื่องจากตลาดทุนเริ่มฟื้นตัวขึ้น
ขณะที่หุ้นดรีมเวิร์ค แอนนิเมชัน ดีดตัวขึ้น 1.9% หลังจากนักวิเคราะห์แนะนำให้นักลงทนซื้อหุ้นดังกล่าว