หุ้น KBS บวก 4.67% มาอยู่ที่ 11.20 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท มูลค่าซื้อขาย 122.90 ล้านบาท เมื่อเวลา 10.34 น.โดยเปิดตลาดที่ 11.00 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 11.30 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 11.00 บาท
ผู้บริหาร บมจ.น้ำตาลครบุรี(KBS)กล่าวว่า ราคาหุ้นที่ปรับตัวขึ้นมาแรงและเทรดคึกคักวันนี้เป็นเรื่องที่สมเหตุสมผล เนื่องจากมองว่าราคาในปัจจุบันยังต่ำกว่าปัจจัยพื้นฐานของบริษืทที่มีผลประกอบการและเงินปันผลที่ดี ขณะที่ค่าพี/อียังอยู่ในระดับต่ำแค่ 6 เท่า โดยบริษัทคาดว่าปี 55 รายได้และกำไรจะไม่ต่ำกว่าปีก่อน แม้ว่าราคาน้ำตาลจะต่ำกว่า ส่วนในปี 56 ก็น่าจะยังรักษาระดับรายได้และกำไรใกล้เคียงกับปีนี้
นายถกล ถวิลเติมทรัพย์ กรรมการผู้จัดการ KBS กล่าวว่า ราคาหุ้นที่ปรับขึ้นสมเหตุสมผลเพราะที่ผ่านมาราคายังต่ำกว่าพื้นฐานมาก เพราะราคาที่ 10 บาทมาตลอดเทียบ PE ที่ 6 เท่า ขณะที่เพิ่งจ่ายปันผลระหว่างกาล 0.20 บาท/หุ้น ในเชิงพื้นฐานรายได้และกำไรปีนี้ไม่ได้ต่ำกว่าปีก่อน ซึ่งปีก่อนราคาหุ้นยังเคยอยู่ที่ 13 บาท
"ไม่แปลกใจที่ราคาหุ้นขึ้น เพราะก่อนลงมาแถว 10 บาท ก็ยืน 11.50 บาทนานมาก ก็เป็นราคาที่สมเหตุสมผลกลับไปสู่ปกติ"
โดยปี 55 คาดว่ากำไรสุทธิไม่ต่ำกว่าปี 54 ที่ราว 800 ล้านบาท ครึ่งแรกมีกำไร 550 ล้านบาทแล้ว ไตรมาส 2 รายได้อาจไม่ดี เพราะมีสินค้าที่ส่งมอบล่าช้าซึ่งก็จะมาส่งมอบในครึ่งหลังปีนี้ แต่กำไรสุทธิในปี 58 จะโตก้าวกระโดดเพราะจะรับรู้รายได้จากโครงการโรงไฟฟ้าชีวมวลเต็มปี จากที่คาดว่าก่อสร้างแล้วเสร็จปี 57 รายได้จะเริ่มเข้าปี 57 แต่ปี 58 กำไรจะเพิ่มขึ้นชัดเจนเพราะจะรับรู้รายได้เต็มปีและบันทึกเป็นกำไรสุทธิ 200-300 ล้านบาทในปีแรก จากนั้นก็จะเพิ่มขึ้น ซึ่งตอนนี้สั่งซื้อเครื่องจักรไปแล้ว
ส่วนปี 56 คาดรายได้และกำไรใกล้เคียงปี 55 ที่ไม่ได้ตั้งเป้าเติบโต เพราะตอนนี้ราคาน้ำตาลยังไม่ดีอยู่ที่ 20-21 เซนต์/ปอนด์ ลดลงจากก่อนหน้านี้ที่ 25-26 เซนต์/ปอนด์ ราคาอ้อยก็ไม่ได้จูงใจที่จะปลูกกัน เราก็เน้นที่จะพยายามรักษาพื้นที่เดิมเอาไว้ ทำให้คาดว่ารายได้จะไม่เติบโตมาก
ราคาน้ำตาลช่วงนี้ที่ยังทรงๆ เพราะวิกฤติยุโรป เศรษฐกิจสหรัฐ อินเดีย ขณะที่ซัพพลายเพิ่มจากราคาที่ดี 3 ปีก่อนหน้าที่ 30 เซนต์ อย่างไรก็ตาม มองว่าราคาน้ำตาลไม่น่าจะต่ำกว่านี้แล้ว จากนี้ไปดีมานด์ซัพพลายน่าจะกลับสู่ปกติ สภาพอากาศน่าจะดี