นายเสริมคุณ คุณาวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ซีเอ็มโอ(CMO) กล่าวว่า CMO รุกขยายธุรกิจออกแบบบริหารพิพิธภัณฑ์ เนื่องจากเล็งเห็นความสำคัญของการให้องค์ความรู้ในสังคม ทั้งในด้านโบราณคดี ศิลปวัฒนธรรม ตลอดจนวิทยาศาสตร์ ซึ่งการสร้างองค์ความรู้ หรือ ศูนย์การเรียนรู้ เป็นเรื่องสำคัญของประเทศ พร้อมตั้งเป้ารายได้ธุรกิจออกแบบบริหารพิพิธภัณฑ์ในปี 56 ที่ 120 ล้านบาท จาก 70 ล้านบาทในปี 55
ขณะที่ บริษัทตั้งเป้ารายได้รวมปี 56 ที่ 1.3 พันล้านบาท เติบโต 10% จากปี 55 ที่คาดว่าจะมีรายได้ 1.1 พันล้านบาท
นายเสริมคุณ กล่าวว่า ล่าสุด บริษัทฯ ได้รับงานใหม่ 3 งาน โดยได้รับความไว้วางใจทั้งจากสถาบันการศึกษา สถาบันการเงิน ตลอดจนหน่วยงานกองทัพไทย ให้ออกแบบและสร้างพิพิธภัณฑ์ ได้แก่ งานออกแบบและจัดสร้างพิพิธภัณฑ์สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ ,พิพิธภัณฑ์จดหมายเหตุ ธ.ก.ส. และ นิทรรศการถาวรพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จ.อุบลราชธานี ภายใต้กองทัพภาคที่ 2
ทั้งนี้ การดำเนินงานของแผนกรับบริหารและออกแบบพิพิธภัณฑ์ของ CMO แบ่งออกเป็น 4 ประเภท ได้แก่ 1.ประเภทให้บริหารการจัดงานแบบครบวงจร (Turnkey Management) ครอบคลุมตั้งแต่ออกแบบอาคาร ,นิทรรศการ และก่อสร้างนิทรรศการ อาทิเช่น พิพิธภัณฑ์ขนส่งทางน้ำเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ
2. ประเภทออกแบบและก่อสร้างนิทรรศการ อาทิเช่น พิพิธภัณฑ์ Angkor National Museum ,นิทรรศการตามรอยพ่อ เกษตร คือวิถีชีวิตที่ยั่งยืน ในงานมหกรรมพืชสวนโลกเฉลิมพระเกียรติฯ ราชพฤกษ์ และอาคารแสดงพันธุ์สัตว์น้ำบึงบอระเพ็ด เฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา จ.นครสวรรค์ เป็นต้น 3.ประเภทก่อสร้างนิทรรศการ อาทิเช่น พิพิธภัณฑ์ศาลปกครอง เป็นต้น 4.ประเภทศึกษาและออกแบบวางแผนแม่บท อาทิเช่น พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติหริภุณไชย กรมศิลป์ เป็นต้น
“บริษัทฯ มีหน่วยธุรกิจที่รับงานด้านการจัดนิทรรศการทั้งงานนิทรรศการถาวรประเภทพิพิธภัณฑ์ และงานนิทรรศการชั่วคราวอยู่แล้ว แต่บริษัทฯ เชื่อว่า ตลาดพิพิธภัณฑ์ ยังมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่องทั้งในประเทศ และต่างประเทศ ซึ่งจากการเดินทางไปดูงานในประเทศแถบอาเซียน โดยเฉพาะประเทศอินโดนีเซีย พม่า และลาว มีแนวโน้มจะมีการสร้างพิพิธภัณฑ์ บริษัทจึงได้ขยายขอบเขตธุรกิจการให้บริการพร้อมเพิ่มบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญในงานพิพิธภัณฑ์ ตลอดจนนำเทคโนโลยี และเทคนิคพิเศษมาใช้ในการจัดแสดง" นายเสริมคุณ กล่าว
นายเสริมคุณ กล่าวว่า ช่วงครึ่งหลังปี 55 ยอมรับว่ารายได้และกำไรจะน้อยกว่าครึ่งปีแรกที่มีกำไรสุทธิ 40 ล้านบาท แต่จากงานในมือ (backlog) ณ มิ.ย.55 ที่มี 400 ล้านบาท เชื่อว่าจะผลักดันรายได้ทั้งปีเป็นไปตามเป้าหมายที่ 1.1 พันล้านบาท โดยมีอัตรากำไรสุทธิ (net margin)ที่ 6% พลิกสถานการณ์จากเมื่อปีก่อนที่มีผลประกอบการขาดทุน
ส่วนปี 56 ตั้งเป้ารายได้ที่ 1.3 พันล้านบาท และรักษาระดับอัตรากำไรสุทธิที่ 6% ใกล้เคียงปีนี้ โดยบริษัทเตรียมเข้าซื้อกิจการธุรกิจก่อสร้างขนาดเล็กเพื่อสนับสนุนธุรกิจในแง่ของการลดต้นทุนและเพิ่มอัตรากำไร(มาร์จิ้น)ขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจา 3-4 ราย มีข้อสรุปในหน้า โดยตั้งเป้า net margin เพิ่มเป็น 10% ในปี 60
"เราจะใช้เงินที่ได้จากการเพิ่มทุนในการซื้อกิจการ ตอนนี้อยู่ระหว่างการเจรจากันอยู่หลายราย รอดูปัจจัยหลายด้าน"นายเสริมคุณ กล่าว
นายเสริมคุณ กล่าวว่า สัดส่วนรายได้ของบริษัทจะแบ่งเป็นงานอีเว้นท์ของภาคเอกชน 65% และเป็นโครงการของภาครัฐอีก 35% ซึ่งในส่วนของงานภาครัฐ บริษัทฯ ยังเติบโตได้ดี โดยมีงานเข้ามาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในช่วงครึ่งปีหลัง อาจจะทำให้สัดส่วนเปลี่ยนไป เพราะรัฐบาลมีความชัดเจนที่ส่งเสริมการจัดงาน โดยเฉพาะงานประเภทนิทรรศการ ซึ่ง CMO ได้รับความไว้วางใจจากภาครัฐบาลให้จัดงานมาโดยตลอด
สำหรับธุรกิจในต่างประเทศ บริษัทยังเดินหน้าในการรับงาน ซึ่งอยู่ระหว่างการเจรจาหลายราย แต่ยังไม่มีข้อสรุปเนื่องจากมีปัจจัยที่สามารถการเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา อย่างไรก็ตามบริษัทได้มีการเตรียมความพร้อมเพื่อรองรับการขยายธุรกิจในต่างประเทศไว้แล้ว