นายวิชา พูลวรลักษณ์ ประธานกรรมการบริหาร บมจ.เมเจอร์ ซีนิเพล็กซ์ กรุ้ป (MAJOR) เปิดเผยว่า บริษัทอยู่ระหว่างการเจรจากับพันธมิตรต่างประเทศแถบประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อเปิดโรงหนังภายใต้แบรนด์เมเจอร์ในตลาดอาเซียน รองรับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) โดยขณะนี้อยู่ระหว่างเจรจา 2 ประเทศ คาดว่าจะเปิดตัวพันธมิตรต่างประเทศได้ในต้นเดือน พ.ย.55 ส่วนโรงหนังคาดว่าก่อสร้างแล้วเสร็จในปี 2557 เบื้องต้นจะเปิดประเทศละ 7-8 โรง โดยโรงหนังจะเป็นรูปแบบมัลติเพล็กซ์ มีร้านค้าปลีกรวมด้วย
สำหรับบริษัทในปีนี้ ตั้งเป้ารายได้รวมเติบโต 10% จากปีก่อนที่มีรายได้ราว 6-7 พันล้านบาท โดยช่วง 9 เดือนแรกมีรายได้สูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน และไตรมาส 4/55 เชื่อว่าจะเป็นช่วงที่ดีที่สุด เนื่องจากมีหนังฟอร์มยักษ์เข้าฉาย เช่น เจมส์บอน , ทไวไลฟ์ , ตำนานสมเด็จพระนเรศวร ,สาระแน
ส่วนปี 56 ได้ตั้งงบลงทุน 1 พันล้านบาท ไม่รวมงบการลงทุนต่างประเทศ เพื่อเปิดโรงหนังแห่งใหม่ไม่ต่ำกว่า 100 โรงจาก 12 สาขา ซึ่งจะเป็นปีที่เปิดโรงหนังมากที่สุดจากปกติจะเปิดปีละ 30-40 โรงเท่านั้น โดยเน้นการเปิดโรงหนังในต่างจังหวัด โดยเฉพาะที่มีการเปิดห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล ซึ่งจะทำให้ปีหน้าบริษัทมีโรงหนังรวม 500 โรง จากปัจจุบันมี 406 โรง และเชื่อว่าในอีก 5 ปีข้างหน้าจะมีโรงหนังในประเทศรวม 800 โรง
"ในไทยยังมีศักยภาพที่จะทำโรงหนังอีกเยอะ ถ้าเมเจอร์จะมีโรงหนัง 800 โรงก็ไม่แปลก ขึ้นอยู่กับการขยายงานของช็อปปิ้งมอลล์ หรือเซ็นทรัลเปิด 3 จุดต่อปี ในระยะ 5 ปี ทำให้มีโรงหนังครบ 800โรง โดยปัจจุบันบริษัทมีมาร์เก็ตแชร์ 75%" นายวิชา กล่าว
และในวันนี้ บริษัทได้ร่วมมือกับ บมจ.บัตรกรุงไทย (KTC) เป็นพันธมิตรรอยัลตีโปรแกรม ตอบสนองไลฟ์สไตล์คนชอบดูหนัง กับแคมเปญคะแนนสุดคุ้มทุกโรงทั่วประเทศ โดยฐานข้อมูลลูกค้า KTC และความเป็นไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่เชื่อว่าจะทำให้มีคนดูหนังเพิ่มขึ้น