นายวรวุฒิ ลีนานนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไฟฟ้าหงสา จำกัด เปิดเผยว่า โครงการโรงไฟฟ้าลิกไนต์หงสาในลาว ขณะนี้งานมีความคืบหน้า 25% และได้เริ่มเปิดหน้าเหมืองถ่านหินแล้ว โดยงานก่อสร้างไม่ได้รับผลกระทบจากคดีที่บริษัท บ้านปู เพาวเวอร์ จำกัด ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัท แพ้คดีโรงไฟฟ้าหงสาแก่นายศิวะ งานทวีและพวก ซึ่งทั้งรัฐบาลลาว และสถาบันการเงินที่ให้กู้ไม่ได้สอบถามเรื่องดังกล่าวมายังบริษัท และเข้าใจว่าการฟ้องร้องดังกล่าวเป็นเรื่องของผู้ถือหุ้นเท่านั้น
อนึ่ง โครงการโรงไฟฟ้าลิกไนต์หงสา มีมูลค่าการลงทุน 3.7 พันล้านเหรียญสหรัฐ ใช้แหล่งเงินทุน 1 พันล้านเหรียญสหรัฐ และเงินกู้จากสถาบันการเงินในประเทศ 9 แห่ง จำนวน 2 พันล้านเหรียญสหรัฐ โครงการนี้ประกอบด้วย เหมืองถ่านหิน โรงไฟฟ้า และ โครงการสายส่งไฟฟ้าแรงสูง
ผู้ถือหุ้นใหญ่ในบริษัท ไฟฟ้าหงสา จำกัด ได้แก่ บริษัท บ้านปู เพาเวอร์ ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบมจ.บ้านปู(BANPU)ถือหุ้นในสัดส่วน 40% บมจ.ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง (RATCH) ถือ 40% และ รัฐบาล สปป.ลาว ถือ 20%
โรงไฟฟ้าลิกไนต์หงสา มีกำลังการผลิตไฟฟ้า 1,878 เมกะวัตต์ โดยแบ่งเป็น 3 ยูนิตๆละ 600 เมกะวัตต์ โดย 2 ยูนิตแรกจะจ่ายไฟได้ในช่วงกลางปีและปลายปี 58 และยูนิตสุดท้ายจะจ่ายไฟต้นปี 59 คาดว่าตลอดอายุสัญญา 25 ปีจะใช้ถ่านหิน 300 ล้านตัน
"เรามีเวลาก่อสร้าง 3 ปี ตอนนี้ความก้าวหน้าของงานก็เป็นไปตามแผน เรามั่นใจว่า 3 ปีก็สร้างเสร็จ"นายวรวุฒิ กล่าว
นายวรวุฒิ กล่าวว่า ในโครงการนี้มีผู้รับเหมาหลายราย ได้แก่ โรงไฟฟ้า และโครงการสายส่งฯ จะเป็นผู้รับเหมาจากจีน อุปกรณ์เหมืองถ่านหินใช้ผู้รับเหมาจากออสเตรีย ส่วนการทำเขื่อน และบางส่วนของเหมืองใช้ผู้รับเหมาจากไทย ทั้งนี้ การจะสั่งซื้อเหล็กหรือวัสดุก่อสร้างอื่นขึ้นกับผู้รับเหมา