ตลาดหุ้นยุโรปปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (8 ต.ค.) หลังจากธนาคารโลกปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชียตะวันออก นอกจากนี้ นักลงทุนยังระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่จะทราบผลการประชุมรัฐมนตรีคลังกลุ่มยูโรโซน เพื่อดูว่าที่ประชุมจะมีมาตรการในการรับมือกับวิกฤตหนี้ยุโรปอย่างไร
ดัชนี Stoxx Europe 600 ร่วงลง 1% ปิดที่ 271.43 จุด ซึ่งเป็นการร่วงลงหนักสุดนับตั้งแต่วันที่ 28 ก.ย.
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดวันทำการล่าสุดที่ 3,406.53 จุด ลดลง 50.51 จุด ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดวันทำการล่าสุดที่ 7,291.21 จุด ลดลง 106.66 จุด และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดวันทำการล่าสุดที่ 5,841.74 จุด ลดลง 29.28 จุด
ตลาดหุ้นยุโรปร่วงลงหลังจากธนาคารโลกเปิดเผยในรายงานแนวโน้มเศรษฐกิจเมื่อวานนี้ว่า เศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชียตะวันออก ไม่นับรวมญี่ปุ่น จะขยายตัว 7.2% ในปี 2555 ซึ่งลดลง 0.4% จากการคาดการณ์ที่เปิดเผยในเดือนพ.ค. และคาดว่าเศรษฐกิจในภูมิภาคแห่งนี้จะฟื้นตัวเล็กน้อยในปีหน้า
ธนาคารโลกระบุสาเหตุของการปรับลดการขยายตัวของเศรษฐกิจในครั้งนี้มาจากการส่งออกที่ซบเซา ซึ่งเป็นผลจากวิกฤตหนี้ยูโรโซน พร้อมกับเตือนถึงความเสี่ยงหลายด้านที่มีต่อเศรษฐกิจเอเชียตะวันออก โดยเฉพาะอย่างยิ่งความเสี่ยงจากวิกฤตหนี้ยูโรโซน ซึ่งธนาคารโลกระบุว่าอาจส่งผลให้การขยายตัวทางเศรษฐกิจลดลงกว่า 2% ในปีหน้า หากวิกฤตหนี้ยูโรโซนกลายเป็นภาวะความวุ่นวายทางการเงินขนานใหญ่
นักลงทุนจับตาดูการประชุมรมว.คลังยูโรโซนซึ่งจัดขึ้นที่ลักเซ็มเบิร์กซึ่งมีขึ้นตั้งแต่เมื่อวานนี้ โดยที่ประชุมจะหารือกันเกี่ยวกับการปฏิรูปเศรษฐกิจของสเปน ส่วนในวันนี้ นางอังเกลา แมร์เคล นายกรัฐมนตรีเยอรมนีจะเดินทางไปเยือนกรีซ และนายมาริอาโน ราฮอย นายกรัฐมนตรีสเปนจะทางไปยังฝรั่งเศสเพื่อหารือกับนายฟรองซัวส์ ออลลองด์ ประธานาธิบดีของฝรั่งเศส
หุ้นยูโรแบงก์ ดีดตัวขึ้น 5.1% ขณะที่หุ้น JCDecaux ดิ่งลง 4.1%
นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของประเทศยุโรปในวันนี้ โดยในเวลา 13.45 น.ตามเวลาไทย ฝรั่งเศสจะเปิดเผย ดัชนีการผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนส.ค. และในเวลา 15.00 น. อิตาลีจะเปิดเผยดัชนีการผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนส.ค.