(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้ลุ้นเกิดเทคนิคเคิลรีบาวน์เช่นเดียวกับภูมิภาค

นายณาศิส ประเสริฐสกุล นักกลยุทธ์การลงทุน บล.เกียรตินาคิน กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้น่าจะดีดตัวขึ้นได้บ้างหลังจากที่ได้ปรับตัวลงไป ซึ่งตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ต่างก็รีบาวน์กันทั่วหน้า มองว่าเป็นลักษณะของเทคนิคเคิลรีบาวน์ โดยตลาดฯมีปัจจัยบวกจากความคาดหวังการพูดคุยของนายกฯเยอรมัน และนายกฯกรีซในวันนี้ ที่อาจจะมีความคืบหน้าในทางบวกเกี่ยวกับการช่วยเหลือกรีซ

นอกจากนี้ ยังคาดหวังในการประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในสหรัฐฯที่น่าจะมีผลกำไรที่ออกมา Surprise ให้กับตลาดฯได้

อย่างไรก็ดี ตลาดฯคงมีแรงกดดันจากเรื่องที่ World Bank ได้มีการปรับลดประมาณการตัวเลข GDP ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ลง พร้อมให้กรอบการแกว่งไว้ที่ 1,295-1,317 จุด

ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :

• ตลาดหุ้นนิวยอร์ควานนี้(8 ต.ค.)ดัชนีดาวโจนส์ ปิดที่ 13,583.65 จุด ลดลง 26.50 จุด(-0.19%) ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 1,455.88 จุด ลดลง 5.05 จุด(-0.35%) และดัชนีแนสแด็ก ปิดที่ 3,112.35 จุด ลดลง 23.83 จุด(-0.76%)
• ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้านี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ ลดลง 40.91 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 7.17 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 102.27 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ ลดลง 22.31 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 0.20 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 3.21 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ ลดลง 1.62 จุด และดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 2.00 จุด
• ตลาดหุ้นไทยปิดวานนี้(8 ต.ค.)ที่ระดับ 1,304.71 จุด ลดลง 6.64 จุด(-0.51%)
• นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 782.93 ล้านบาทเมื่อ 8 ต.ค.55
• ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน พ.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการวานนี้ที่ 89.33 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 0.55 ดอลลาร์หรือ 0.6%
• ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์วานนี้(8 ต.ค.)ปิดทำการที่ 9.6 เหรียญฯ/บาร์เรล
• เงินบาทเปิดเช้านี้ที่ระดับ 30.65/67 แนวโน้มทรงตัวรอดูความคืบหน้าแก้ปัญหายุโรป
• กสทช. เดินหน้าประมูลตามกำหนดเดิม 16 ต.ค. นี้ แม้ว่าจะมีนักวิชาการฟ้องล้มประมูล เชื่อทำทุกอย่างถูกต้อง-มีสิทธิขาดตามกฎหมาย ระบุแผนงานให้บริการประโยชน์แก่ประชาชนเขียนครบตามประกาศ ด้าน "ทีดีอาร์ไอ" เชื่อประเด็นฟ้องล้มยังอ่อน
• ผู้ประกอบการน้ำปลาทิพรสและผู้ผลิตอาหารสัตว์ ยื่นเรื่องถึงกรมการค้าภายในขอปรับราคาน้ำปลาเพิ่มขวดละ 1 บาท อาหารสัตว์ขอปรับเพิ่ม 20% ให้เหตุผลว่าต้นทุนการผลิตสูงขึ้น
• นายสมบูรณ์ อารยะสกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท กฟผ.อินเตอร์เนชั่นแนล เปิดเผยว่า ขณะนี้ กฟผ.ยังไม่ตัดสินใจที่จะเข้าไปลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าโดยตรงผ่านนิคมอุตสาหกรรมทวายในประเทศพม่า แต่จะให้ทางบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ ในฐานะภาคเอกชนไทยเข้าไปลงทุนเป็นหลัก เนื่องจากเป็นโครงการลงทุนขนาดใหญ่ต้องใช้เงินจำนวนมาก
• โรงไฟฟ้าหงสาเดินหน้าซื้อเหล็กก่อสร้างโครงการ ไม่หวั่นบ้านปูผู้ถือหุ้นใหญ่พ่ายคดีทุจริตกลุ่มงานทวี, เมื่อวันที่ 8 ต.ค.ที่ผ่านมา บริษัท ไฟฟ้าหงสา ที่ถือหุ้นโดยบริษัท บ้านปู 40% ได้เซ็นสัญญาซื้อเหล็ก 8,000 ตัน มูลค่า 200 ล้านบาท เพื่อใช้ในการดำเนินโครงการโรงไฟฟ้าลิกไนต์หงสา
• นายอารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม ปลัดกระทรวงการคลัง ซึ่งจะเดินทางไปประชุมธนาคารโลกและกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ)ระหว่างวันที่ 10-13 ต.ค. ที่ญี่ปุ่น ได้นัดบริษัท มูดี้ส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิสและบริษัท สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์หรือเอสแอนด์พี สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือหรือเครดิตเรตติ้งเพื่อให้ทั้งสองแห่งปรับเครดิตเรตติ้งไทยดีขึ้น เนื่องจากข้อมูลเศรษฐกิจไทยดีกว่าที่ผ่านมา
• กองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน(กองทุนฟื้นฟูฯ) รายงานยอดหนี้คงค้างล่าสุดตามพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) ปรับปรุงการบริหารหนี้เงินกู้ ที่กระทรวงการคลังกู้เพื่อช่วยเหลือกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน พ.ศ. 2555 ว่า งวดสิ้นเดือน ส.ค. ยอดหนี้กองทุนฟื้นฟูฯ เหลือ 1,133,131 ล้านบาทลดลง 5,174 ล้านบาท จากงวดวันที่ 27 ม.ค. ที่มียอดหนี้ 1,138,305 ล้านบาท

*หุ้นเด่นวันนี้

• ROJNA(ทรีนีตี้)"ซื้อ"เป้าหมาย 12.50 บาท ผู้บริหารระบุว่าในปี 55-56 บริษัทมีแนวโน้มการเติบโตต่อเนื่อง โดยเฉพาะปีหน้าจะมีการโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินมากขึ้นจากปีนี้ที่คาดว่าจะทำยอดขายได้ 1,500 ไร่ ขณะที่มียอดขายรอโอนแล้วเกือบ 800 ไร่ จะรับรู้รายได้ในปีนี้ทั้งหมด ส่วนรายได้ปีนี้คาดว่าจะดีขึ้นจากปีก่อนที่ทำได้ 6,460.78 ล้านบาท หลังยอดขายที่ดินในนิคมฯเพิ่มมากขึ้น ปัจจุบันนิคมที่บริษัทเปิดใหม่ 2 แห่ง คือที่ปลวกแดง และที่ปราจีนบุรี บริษัทคาดว่าจะช่วยให้รายได้และกำไรของบริษัทปรับตัวเพิ่มขึ้น
• THCOM(ฟินันเซีย ไซรัส)"เก็งกำไร"คาดกำไรสุทธิ 3Q12 +61% Q-Q บวกติดต่อกันเป็นไตรมาสที่ 5 สำหรับงวด 9M12 คาดกำไรปกติเป็น 364 ล้านบาท พลิกจาก 9M11 ที่ขาดทุน 130 ล้านบาท แนวโน้มในอนาคตยังสดใส มีลุ้นเซ็นสัญญา iPSTAR กับลูกค้าอินเดียและ TOT เพิ่ม หากเป็นจริงจะเพิ่มอัตราการใช้งาน iPSTAR อีก 6-14% จากปัจจุบัน 25% สำหรับการขาย Mfone บริษัทคาดสรุปได้ภายในสิ้นปีนี้ ประเมินเบื้องต้นว่าหากขาย Mfone ได้ ราคาเป้าหมายจะเพิ่มขึ้นอีก 4 บาท จากเป้าหมายปัจจุบัน 22.70 บาท
• MK(เมย์แบงก์ กิมเอ็ง)"ทยอยสะสม"ราคาเหมาะสม 4.50 บาท คาดว่าผลประกอบการ 2H55 จะเติบโตแบบก้าวกระโดดถึง +140.4% HoH เป็น 315 ล้านบาท เมื่อเทียบกับ 1H55 ที่ 131 ล้านบาท โดย 4Q55 จะเป็นไตรมาสที่มีกำไรสูงสุดของปี จากการรับรู้รายได้โครงการคอนโดมีเนียม Den วิภาวดีมูลค่า 880 ล้านบาท ที่มียอดจองแล้ว 100% และคาดว่าจะรับรู้รายได้ราว 70% ใน 4Q55 และ Valuation ยังค่อนข้างต่ำ รวมทั้งให้ผลตอบแทนจากเงินปันผลในเกณฑ์ดี
• CPF(กสิกรไทย)ให้เป้าระยะสั้น 37.75 บาท ขายเมื่อหลุด 33.00 บาท เก็งกำไรราคาถั่วเหลืองเริ่มปรับลดลงในขณะที่ราคาเนื้อสัตว์เริ่มปรับเพิ่มขึ้น และนักลงทุนเริ่มกลับมายังหุ้นที่ laggard นอกจากนี้ราคาปัจจุบันคิดเป็น 13.9x PER 2556 ใกล้เคียง TUF
• TOP(กสิกรไทย)ให้เป้าระยะสั้น 66.00 บาท ขายเมื่อหลุด 59.50 บาท เก็งกำไรผลงานไตรมาส 3/55 ฟื้นตัวดีขึ้น และทิศทางของ GRM ไตรมาส 3/55 เป็นขาขึ้นและดีกว่า 2 ไตรมาสแรก รวมทั้งราคาน้ำมันดิบขึ้นจาก 80 ไป 100 เหรียญฯ