บทวิเคราะห์ บล.กรุงศรี ระบุว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้แกว่งแคบคล้ายภูมิภาคเหตุยังไร้ปัจจัยใหม่ ขณะเดียวกันยังกังวลเศรษฐกิจโลกหลังกองทุนการเงินระหว่างประเทศ(IMF)ปรับลดประมาณการเติบโตของเศรษฐกิจโลกลง และปัญหายุโรปที่ยังไม่คืบหน้า
นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ สำนักวิจัยทิสโก้ กล่าวว่า ดัชนี้หุ้นไทยในเช้านี้ยังคงกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจโลก และผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน โดยอัลโค อิงค์ ผู้ผลิตอลูมิเนียมรายใหญ่ของโลก ปรับลดความต้องการโลหะลง ทำให้เป็นผลเชิงลบของแนวโน้มผลประกอบการในอนาคต
ขณะที่ chevron ก็ได้มีการระบุถึงผลประกอบการในไตรมาสที่ 3 ว่าจะลดลงอย่างมีนัยสำคัญจากไตรมาสก่อนหน้า ทำให้นักลงทุนกังวลผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในอเมริกาที่เหลืออื่นๆ เพราะช่วงนี้เป็นช่วงการประกาศผลประกอบการ นับว่าเป็นการเริ่มต้นที่ไม่ดีนัก
นอกจากนี้ล่าสุดสเปนถูก S&P ปรับลดอันดับเครดิตประกาศลดลง 2 ขั้น จาก BBB+ เป็น BBB- ซึ่งสูงกว่า Junk Board แค่เพียง 1 ขั้น นับเป็นระดับเดียวกับของที่มูดี้ส์ให้ไว้ และมูดี้ส์เองก็กำลังทบทวนอันดับเครดิตของสเปนอยู่เช่นกัน
ด้านความเสี่ยงปัจจัยในประเทศ จับตาผลคำสั่งศาลศาลปกครองที่นัดไต่สวนฉุกเฉินบ่ายโมงวันนี้ เกี่ยวกับคำร้องขอระงับการประมูลคลื่น 3จี ถ้าผลคือระงับการประมูลในวันที่ 16 ต.ค.นี้ ก็จะทำให้เป็นผลลบต่อกลุ่มสื่อสาร
พร้อมให้แนวรับ 1,280 - 1,285 จุด และแนวต้าน 1,290 จุด
ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :
- ตลาดหุ้นนิวยอร์ควานนี้(10 ต.ค.)ดัชนีดาวโจนส์ ปิดที่ 13,344.97 จุด ลดลง 128.56 จุด(-0.95%) ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 1,432.56 จุด ลดลง 8.92 จุด(-0.62%) และดัชนีแนสแด็ก ปิดที่ 3,051.78 จุด ลดลง 13.24 จุด(-0.43%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้านี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ ลดลง 81.60 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 5.71 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง ลดลง 106.55 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน ลดลง 97.43 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ลดลง 13.73 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ ลดลง 7.15 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ เพิ่มขึ้น 6.59 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย ลดลง 2.20 จุด และดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลีย ลดลง 7.60 จุด
- ตลาดหุ้นไทยปิดวานนี้(10 ต.ค.)ที่ระดับ 1,289.35 จุด ลดลง 3.13 จุด(-0.24%)
- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 9,102.90 ล้านบาทเมื่อ 10 ต.ค.55
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน พ.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการวานนี้ที่ 91.25 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 1.14ดอลลาร์หรือ 1.2%
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์วานนี้(10 ต.ค.)ปิดทำการที่ 9.9 เหรียญฯ/บาร์เรล
- เงินบาทเปิดเช้านี้ที่ระดับ 30.72/74 อ่อนค่าตามยูโร กังวลศก.ยุโรปหลังสเปนถูกลดเครดิต
- ฟิทช์ชี้วิกฤติยุโรปลากยาว-ปัญหาขาดดุล งบประมาณสหรัฐ-จีนชะลอตัวลงแรง เป็นความเสี่ยงสุด โดยเฉพาะอาเซียน รวมไทย แต่มั่นใจไทยยืดหยุ่นรับมือได้ จากพื้นฐานแกร่งและมีเสถียรภาพ หนี้สาธารณะไม่สูง ภาคบริโภคกับลงทุนภายในขับเคลื่อน คาด จีดีพีไทยโต 5.5% ในปีนี้ และ 4.5% ในปี 2556
- "ยิ่งลักษณ์"กำชับครม.เศรษฐกิจทำบัญชีทรัพย์สินรัฐ มอบธนารักษ์ดูแผนการใช้ประโยชน์ พร้อมประเมินสถานะเศรษฐกิจประเทศ สั่ง เลขาฯ บีโอไอ ลดเวลาพิจารณาส่งเสริมลงทุนโครงการ-ลดอุปสรรค "กิตติรัตน์" หวังลดขาดดุลงบประมาณ เหลือ 2.25 แสนล้านบาท ปี 2557 ขณะที่คมนาคมรับจัดลำดับความสำคัญโครงการตาม พ.ร.บ. ลงทุนฯ 2 ล้านล้านบาท เสนอสภากลางปีหน้า
- ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.)เผยสถานการณ์ราคาน้ำมันตลาดโลกขณะนี้ผันผวนต่อเนื่องดังนั้นการดูแลน้ำมันกลุ่มเบนซิน หากผู้ค้าจำเป็นต้องปรับขึ้นราคาตามตลาดโลกก็ปรับขึ้นได้ เพราะที่ผ่านมาได้ช่วยดูแลราคาขายปลีกดีเซลไม่ให้เกินระดับ30 บาท โดยปัจจุบันยังมีราคาอยู่ที่ 29.79 บาท/ลิตร ล่าสุด บริษัทน้ำมันต่างชาติได้ประกาศปรับขึ้นราคาขายปลีกกลุ่มเบนซินและแก๊สโซฮอล์ไปแล้ว 50 สต./ลิตร มีผลตั้งแต่วันที่ 10 ต.ค. ส่วน ปตท. และบางจากขยับตาม มีผลวันที่ 11 ต.ค.
- ศาลปกครองกลางได้นัดไต่สวนฉุกเฉิน 11 ต.ค.เวลา 13.00 น. ตามคำร้องของนักวิชาการอิสระด้านโทรคมนาคมที่ยื่นฟ้องคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ(กสทช.)เพื่อพิจารณาว่าจะรับคดีเข้าสู่สารบบหรือไม่ โดยคำฟ้องขอให้ศาลเพิกถอนประกาศเข้าร่วมประมูลคลื่นความถี่สำหรับกิจการโทรคมนาคมเคลื่อนที่สากลย่าน 2.1 GHz ในวันที่ 16 ต.ค. และขอให้ศาลปกครองกำหนดมาตรการบรรเทาทุกข์ชั่วคราว โดยห้ามเปิดการประมูลในวันที่ 16 ต.ค.
- ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)0เริ่มทยอยประกาศมาตรการช่วงที่ 1 เพื่อผ่อนคลายกฎเกณฑ์การนำเงินออกไปลงทุนต่างประเทศ ตั้งแต่สัปดาห์หน้า อาทิ ให้บุคคลธรรมดานำเงินไปลงทุนต่างประเทศได้ไม่จำกัดจำนวน จากเดิมไม่เกิน 100 ล้านเหรียญสหรัฐ การเพิ่มประเภทนักลงทุนสถาบัน โดยจะให้บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ออกไปลงทุนไม่จำกัดจำนวนในแต่ละราย จากเดิมไม่เกินปีละ 50 ล้านเหรียญสหรัฐ
- แหล่งข่าวจากกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ขณะนี้กระทรวงการคลังมีข้อสรุปชัดเจนว่าจะไม่อนุมัติให้ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ขยายระยะเวลาโครงการบ้านหลังแรก ที่คิดอัตราดอกเบี้ย 0% ระยะเวลา 3 ปีสำหรับประชาชนที่ขอกู้เงินซื้อบ้านในราคาไม่เกินหลังละ 1 ล้านบาทออกไปอีก หลังจากโครงการนี้ได้หมดอายุลงไปตั้งแต่วันที่ 30 ก.ย.ที่ผ่านมาแล้ว
- นายวิน พรหมแพทย์ หัวหน้างานลงทุนต่างประเทศและอสังหาริมทรัพย์สำนักงานประกันสังคม (สปส.) เปิดเผยว่าสปส.จะเพิ่มเม็ดเงินการลงทุนในต่างประเทศขึ้นมาอีก 200 ล้านเหรียญสหรัฐในช่วงปลายปีนี้จนถึงต้นปีหน้า เพื่อนำไปลงทุนในตราสารหนี้ต่างประเทศในสัดส่วน 60% ตลาดหุ้น 20% และอสังหาริมทรัพย์ 20%
*หุ้นเด่นวันนี้
- VGI เข้าเทรดวันนี้วันแรก โดยบริษัทเสนอขายหุ้น IPO จำนวน 88 ล้านหุ้น ในราคา 35 บาท/หุ้น
- PTTGC(โกลเบล็ก)"ซื้อ"ราคาเป้าหมาย 78.70 บาท มองผลประกอบการผ่านจุดเลวร้ายของปีมาแล้ว เชื่อว่าผลขาดทุนของธุรกิจโรงกลั่นของ PTTAR(เดิม)ที่ฉุดให้ผลประกอบการ PTTGC หดตัวจะพลิกกลับมามีกำไร โดยมีแรงหนุนราคาน้ำมันฟื้นทำให้คาดว่าไตรมาสนี้จะกลับมาบันทึกกำไรจากสต๊อกน้ำมันดิบจากที่ขาดทุนอย่างมากใน 2Q55 ส่วนทั้งปีคาดกำไรสุทธิ 25,960 ล้านบาท ลดลง 14%yoy คาดว่าการฟื้นตัวของผลประกอบการใน 2H55 และปี 56 จะเป็นปัจจัยหนุนให้ราคาหุ้นในระยะยาวปรับตัวสูงขึ้น
- BTS(โกลเบล็ก)"ซื้อเก็งกำไร"ให้ราคาเป้าหมายตาม consensus ไว้ที่ 6.60 บาท เนื่องจากได้รับประโยชน์จากบริษัทลูก "VGI" ที่จะเข้าซื้อขายในตลาดฯ และจำนวนผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้น
- DTAC(ทรีนีตี้)เป้า 110 บาท หากผ่านการประมูล 3G จะได้รับประโยชน์สูงสุดจากส่วนลดต้นทุนบนใบอนุญาต 3G ใหม่
- PS(ทรีนีตี้)เป้า 22 บาท โครงการแนวราบเริ่มฟื้นตัว คาดจะกลับมาเป็นผู้นำตลาด
- STEC(ทรีนีตี้)เป้า 22.50 บาท backlog ยังสูง แม้รัฐจะยกเลิกเซ็นสายสีแดง