นายวีรไท สันติประภพ รองผู้จัดการ สายงานวางแผนกลยุทธ์องค์กร ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.) เปิดเผยว่า ตลท.อยู่ระหว่างการโรดโชว์ที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ร่วมกับกระทรวงคมนาคม และบจ.รายใหญ่ ประกอบด้วย บมจ.ปตท. (PTT) ,บมจ.บางจากปิโตรเลียม (BCP) , บมจ.เจริญโภคภัณฑ์อาหาร (CPF), บมจ.ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล(MINT) ,บมจ.เซ็นทรัลพัฒนา (CPN) , บมจ.ไทคอน อินดัสเตรียล คอนเน็คชั่น (TICON) และ บมจ.น้ำตาลขอนแก่น (KSL) พบว่ามีกองทุน 30 แห่ง ที่มีนโยบายลงทุนระยะยาวเข้ารับฟังข้อมูลและให้ความสนใจเกี่ยวกับแผนการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานของไทย ทั้งระบบขนส่งทางน้ำ ระบบราง ทางอากาศ เพื่อพัฒนาประเทศและเชื่อมโยงกับประเทศเพื่อนบ้านเพื่อรองรับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC)
ทั้งนี้นักลงทุนให้ความสนใจในโครงการขยายท่าเรือ โครงการรถไฟรางคู่ และการขยายสนามบิน เนื่องจากจะช่วยลดต้นทุนการผลิตและเปิดโอกาสให้ภาคธุรกิจใหม่ๆเข้ามามีส่วนร่วม
และในสัปดาห์หน้า ตลท.จะโรดโชว์ต่อเนื่องในประเทศญี่ปุ่น เพื่อเจาะตลาดหนักลงทุนกลุ่มใหม่ เช่นโบรกเกอร์ท้องถิ่น ทีมมาร์เก็ตของโบรกเกอร์แต่ละแห่ง ลูกค้า high network ซึ่งกองทุนต่างประเทศมองการลงทุในไทยยังดีอยู่ เนื่องจากช่วง 1-2 ปี มีผลตอบแทนจากปันผลอยู่ระดับ 3.4% ถือว่าอยู่ระดับสูงเมื่อเทียบกับการลงทุนในจีน ที่อยู่ 2.8% เกาหลี 1.2% อินโดนีเซีย 2.1% เชื่อว่ากองทุนเหล่านี้จะลงทุนในไทย แม้ดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับขึ้นพอสมควรแล้ว เนื่องจากตลาดหุ้นไทยังมีศักยภาพการเติบโต รัฐบาลมีการกระตุ้นเศรษฐกิจ มีการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน หนี้สาธารณะไม่สูง บมจ.มีผลประกอบการดี และค่าเงินบาทแข็งค่า ช่วยสร้างผลตอบแทนได้เพิ่มขึ้น
สำหรับหุ้นปันผลสูง ต่างชาติจะให้ความสนใจลงทุนมาก เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยโลกอยู่ระดับต่ำ ขณะที่สภาพคล่องยังล้นระบบ