นายประสิทธิ์ ศรีสุวรรณ ประนเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บล. คันทรี่ กรุ๊ป (CGS) เปิดเผยว่า บริษัทคาดว่าผลกำไรในปี 55 น่าจะทะลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ว่าจะเติบโต 10% เนื่องจากมูลค่าการซื้อขายของตลาดโดยรวมในขณะนี้เพิ่มสูงขึ้นมาที่ 3-5 หมื่นล้านบาท/วัน จากช่วงครึ่งปีแรกที่อยู้ในระดับ 2 หมื่นล้านบาท ดังนั้น จึงมีแนวโน้มที่บริษัทจะสามารถจ่ายปันผลให้ผู้ถือหุ้นได้อย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 3
ปัจจุบัน บริษัทมีส่วนแบ่งการตลาดธุรกิจหลักทรัพย์ (มาร์เก็ตแชร์) อยู่ประมาณ 5.5-6.5% เพิ่มขึ้นจากปี 54 ที่มีมาร์เก็ตแชร์ 5% ส่วนบัญชีลูกค้าในปัจจุบันมี 55,000 บัญชี และคาดว่าในสิ้นปีนี้จะมีเพิ่มขึ้นเป็น 60,000 บัญชี และปัจจุบันบริษัทมีสาขาทั้งหมด 50 สาขา ซึ่งในส่วนที่เหลือของปีนี้อาจจะเพิ่มอีก 1-2 สาขา เป็นแบบไซเบอร์ขนาดเล็กๆ
สำหรับวงเงินพอร์ต Prop Trade ของบริษัทมีอยู่ 125 ล้านบาท แต่ที่ใช้ลงทุนจริงมีเพียง 50-70 ล้านบาท โดยขณะนี้บริษัทได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนในส่วนนี้มากกว่า 40%
และในช่วง 3 เดือนสุดท้ายของปีนี้ บริษัทมีลูกค้าที่รับเป็นที่ปรึกษาทางการเงินในการเสนอขายหุ้นให้กับประชาชนทั่วไปครั้งแรก(IPO) 2-3 ราย ที่เตรียมตัวจะเข้าตลาดจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ(mai)
นายประสิทธิ์ กล่าวต่อว่า ส่วนธุรกิจ TFEX ขณะนี้สามารถทำมาร์เก็ตแชร์ได้ทะลุเป้าหมายแล้ว โดยมีมาร์เก็ตแชร์ 3.5-4.5% เพิ่มขึ้นจากปี 54 ที่มีมาร์เก็ตแชร์ 2.5%
สำหรับการเปิด Asean Linkage ที่จะเริ่มในเร็วๆนี้ บริษัทมีระบบพร้อมที่จะให้บริการแล้วถึง 24 ประเทศ โดยตอนนี้มีบัญชีลูกค้าที่สนใจจะเทรดหุ้นต่างประเทศประมาณไม่เกิน 100 ราย
"ในช่วงที่เหลือของปีนี้มองว่าตลาดน่าจะเป็นขาขึ้นมากกว่าขาลง ตลาดฯยังคงดีอยู่ โดยดูจากภาพของวอลุ่มเทรดที่มีมาก ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลจากที่ช่วงนี้นักลงทุนหันมาเล่นสั้นมากขึ้น นอกจากนี้หลายๆ คนก็มองเป้าดัชนีปีนี้ที่ 1,350 จุด" นายประสิทธิ์ กล่าว