(เพิ่มเติม) TMI ตั้งเป้าปี 56-58 ยอดขายโต 30%,เล็งร่วมทุนตั้ง รง.ในพม่า-ลาว-เขมร

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday October 15, 2012 12:29 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บมจ.ธีระมงคลอุตสาหกรรม(TMI) บริษัทตั้งเป้าหมายระยะ 3 ปีข้างหน้า(ปี 56-58)จะเติบโตในระดับเฉลี่ยปีละ 30% ด้วยการเน้นขยายตลาดส่งออก พร้อมไปกับการเพิ่มส่วนแบ่งตลาดในประเทศ ซึ่งยอดขายและกำไรในปี 56 เติบโต 30% จากปีนี้ หลังจากโรงงานใหม่แล้วเสร็จและเริ่มเดินเครื่องผลิตได้ตั้งแต่ต้นปีหน้า บริษัทยังได้ศึกษาแนวทางการลงทุนในอนาคตที่จะขยายไปสู่ฐานการผลิตในประเทศเพื่อนบ้านด้วยการร่วมทุนตั้งโรงงานผลิตทั้งในพม่า ลาว และกัมพูชา เพื่อรองรับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน(AEC)ในปี 58

นายธีระชัย ประสิทธิรันพร ประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการ TMI กล่าวว่า แผนงานหลักของบริษัทหลังเข้าตลาดหลักทรัพย์มาได้สองปี คือการรุกสร้างตราสินค้าแบรนด์ GATA ในกลุ่มลูกค้าคอนซูเมอร์ผ่านช่องทางการค้าปลีกสมัยใหม่ ส่วนแผนระยะยาว 3 ปีหลังการเพิ่มทุยจะเตรียมก่อสร้างโรงงานแห่งใหม่รองรับการผลิตที่จะเพิ่มขึ้น 100 % เตรียมบุกตลาดเพื่อนบ้านรองรับประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนภายใต้เป้าหมายรายได้ขยายตัว 30% ต่อปี

ในปีนี้เป็นปีที่บริษัทได้ก่อตั้งเป็นเวลา 35 ปี และสองปีหลังจากเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ผลประกอบการของบริษัทและทุนจดทะเบียนเติบโตอย่างต่อเนื่อง และการขยายไลน์สินค้ามีความหลากหลายมากขึ้น โดยมีทั้งหมด 6 กลุ่มคือ บัลลาสต์และหม้อแปลง หลาดไฟ อุปณ์ควบคุมวงจรไฟฟ้า โคมไฟ อุปกรณ์อำนวยความสะดวกในบ้านและผลิตภัณฑ์ไฟฟ้าอื่นๆ และได้มีการสร้างแบรนด์ของตัวเองทั้งสามคือ GATA CROSS และ ALLITE จากเดิมที่เน้นผลิตตามคำสั่งเป็นหลัก (OEM) นอกจากนี้ยังได้สร้างศูนย์กระจายสินค้าและโชว์รูมขึ้น เพื่อเพื่อมประสิทธิภาพการจำหน่ายดียิ่งขึ้น และประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี

ภาพรวมของบริษัทในปีนี้คาดการณ์ว่าจะมียอดขายราว 400-500 ล้านบาท เติบโตมากกว่า 30% ในปีนี้ ซึ่งสูงกว่าเป้าหมายเดิมที่คาดว่าจะเติบโตราว 20% โดยธุรกิจในไตรมาส 4/55 น่าจะเป็นไปในทิศทางเดียวกับการเจริญเติบโตในช่วงไตรมาส 1/55 และไตรมาส 2/55

ส่วนปี 56 แนวโน้มของธุรกิจน่าจะเติบโตต่อเนื่อง หลังจากบริษัทมีกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นจากโรงงานใหม่ที่จะแล้วเสร็จในเดือน ต.ค.55 และจะเริ่มผลิตได้ในต้นปีหน้า ใช้งบลงทุนที่ประมาณ 40 ล้านบาท ทั้งซื้อเครื่องจักรและค่าก่อสร้าง โดยโรงงานนี้จะช่วยขยายกำลังการผลิตโคมไฟให้เพิ่มขึ้นอีก 100,000 ชิ้น/เดือน และหลอดไฟจะเพิ่มขึ้นอีก 900,000 ชิ้น/เดือน ทำให้บริษัทจะมีรายได้ที่เข้ามาเพิ่มมากขึ้นจากการขยายโรงงานแห่งใหม่นี้

นายธีระชัย กล่าวว่า ภายหลังจากที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นรับรองให้เพิ่มทุนจดทะเบียนโดยการออก TMI-W1 ระยะเวลาในการใช้สิทธิแปลงเป็นหุ้นสามัญภายใน 3 ปี บริษัทจะนำเงินจากการเพิ่มทุนดังกล่าวไปสร้างโรงงานแห่งใหม่รองรับการผลิตที่คาดว่าจะขยายตัวอีก 100% เพื่อส่งจำหน่ายในประเทศเพื่อนบ้าน เช่นกลุ่ม ประเทศจีน ลาว พม่า และเวียดนาม (CLMV) รองรับการเปิด AEC และตราสินค้าจากประเทศไทยยังได้รับการตอบรับที่ดีจากประเทศดังกล่าว

แผนธุรกิจเพื่อรองรับ AEC อีก 3 ปีข้างหน้านั้น บริษัทจะเพิ่มความหลากหลายของผลิตภัณฑ์เพื่อเตรียมความพร้อมการกระจายสินค้าไปยังตลาดต่างประเทศ และเพิ่มปริมาณสินค้าในแต่ละประเภท โดยเฉพาะตลาดอินโดจีน ซึ่งประกอบด้วย พม่า ลาว และกัมพูชา ที่เป็นกลุ่มที่บริษัทได้มีการส่งสินค้าเข้าไปจำหน่ายอยู่แล้ว และอาจจะมีการร่วมลงทุนเพื่อเข้าไปตั้งโรงงานผลิตในประเทศดังกล่าว คาดว่าจะใช้เงินลงทุนโครงการละ 40 ล้านบาท

รวมถึงประเทศที่มีการส่งออกไปจำหน่าย แต่ยังมีคำสั่งซื้อสินค้าไม่มากนัก เช่น เวียดนาม ฟิลิปปินส์ และอินโดนีเซีย ก็จะมีการขยายตลาดให้มียอดขายมากขึ้น และบางประเทศยังไม่ได้มีการสั่งสินค้าเข้าไปจำหน่ายก็จะเตรียมความพร้อมในการกระจายสินค้าด้วยการหาเอเยนต์และตัวแทนในการกระจายสินค้าเพิ่มขึ้น เพราะหลังจากที่ไม่มีกำแพงภาษีภายใต้ข้อตกลง AEC แล้วจะทำให้โอกาสในการส่งสินค้าเข้าไปจำหน่ายมีมากขึ้น

ปัจจุบัน บริษัทมีสัดส่วนการส่งออกที่ 10% และจำหน่ายในประเทศ 90% ซึ่งขณะนี้ได้ตั้งเป้าหมายที่จะเพิ่มสัดส่วนการส่งออกเป็น 50% และจำหน่ายในประเทศ 50% ขณะที่มีเป้าหมายจะเพิ่มส่วนแบ่งตลาด(มาร์เก็ตแชร์)ในประเทศจาก 1% เป็น 5% ในอีก 3 ปีข้างหน้า โดยมีคู่แข่งหลักเป็นสินค้าจากประเทศจีน

ทั้งนี้ บริษัทมองว่าแนวโน้มใน 2-3 ปี ข้างหน้าคาดว่าส่วนตลาดของหลอดไฟบริษัทจะมีสัดส่วนยอดขายมากกว่า 50% ของสัดส่วนรายได้ทั้งหมดของบริษัท โดยตลาดหลอดไฟมีมูลค่าตลาดรวมสูงกว่าบัลลาสต์ 5-7 เท่า และมีแนวโน้มการขยายตัวของผลิตภัณฑ์ด้านนี้มีมากขึ้น


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ