SIRI เผยยอดขาย 1-15 ต.ค.ทำได้เกือบ 3 พันลบ.สูงกว่าทั้งเดือนใน ต.ค.54

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday October 15, 2012 15:11 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายเศรษฐา ทวีสิน กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.แสนสิริ(SIRI)เปิดเผยว่า ยอดขายรวมของบริษัทในช่วงครึ่งแรกของเดือน ต.ค.55 (1-15 ต.ค.55) คิดเป็นยอดขายรวมเกือบ 3,000 ล้านบาท สูงกว่าคาดการณ์ รวมทั้งสูงกว่าในช่วงเดือนเดียวกันของปีก่อนทั้งเดือนที่ทำได้ 2,200 ล้านบาท

ทั้งนี้ ในช่วงระหว่างวันที่ 12-14 ต.ค.บริษัทได้จัดงาน “Homes for the Holiday" และสามารถสร้างยอดขายจากโครงการคอนโดมิเนียมตากอากาศใหม่ จำนวนทั้งสิ้น 7 โครงการ ใน 4 เมืองท่องเที่ยวต่างจังหวัด ได้แก่ พัทยา หัวหิน ภูเก็ต และเขาใหญ่ ที่ได้รวบรวมเพื่อนำเสนอทางเลือกสำหรับโครงการบ้านพักตากอากาศที่ตอบโจทย์ความต้องการวันพักผ่อนให้แก่ลูกค้าได้อย่างแท้จริง คิดเป็นยอดขายรวมกว่า 1,300 ล้านบาท

สำหรับคอนโดมิเนียมตากอากาศ 7 โครงการที่นำมาร่วมในงานนี้ มูลค่ารวมเกือบ 10,000 ล้านบาท ได้แก่ โครงการเชโลน่า เขาเต่า (Chelona) มูลค่าโครงการ 1,100 ล้านบาท โครงการบ้านอิ่มเอม หัวหิน (Baan Imm-Aim) มูลค่าโครงการ 350 ล้านบาท โครงการ ออทัมน์ (Autumn) หัวหิน มูลค่าโครงการ 750 ล้านบาท โครงการบ้านแสนงาม หัวหิน (Baan Sanngam) มูลค่าโครงการ 1,500 ล้านบาท โครงการบ้านปลายหาด วงศ์อมาตย์ (Baan Plai Haad) มูลค่าโครงการ 2,200 ล้านบาท โครงการบ้านไม้ขาว ภูเก็ต มูลค่าโครงการ 2,500 ล้านบาท และโครงการเดอะ วัลลีย์ (The Valley) เขาใหญ่ มูลค่าโครงการ 1,200 ล้านบาท

โครงการที่มีกลุ่มลูกค้าให้ความสนใจสูงที่สุด ได้แก่ โครงการบ้านแสนงาม หัวหิน รองลงมาได้แก่ โครงการ เดอะ วัลลีย์ เขาใหญ่ และบ้านปลายหาด วงศ์อมาตย์ พัทยาตามลำดับ นอกจากนี้ลูกค้ายังให้ความสนใจจองวิลล่าขนาด 3 ห้องนอน ในโครงการ 23 องศาเอสเตท เขาใหญ่ ระดับราคาเฉลี่ย 19.9 — 31 ล้านบาท เป็นอย่างสูงอีกด้วย

ส่วนโครงการคอนโดมิเนียมตากอากาศโครงการอื่นๆ ภายในงานก็ได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้าเช่นเดียวกัน โดยมียอดจองที่ดีรวมทั้งมีลูกค้าสนใจสอบถามข้อมูลโครงการต่างๆ อย่างต่อเนื่อง ซึ่งชี้ให้เห็นว่าตลาดคอนโดมิเนียมบ้านพักตากอากาศ ยังมีความต้องการสูงรวมถึงมีแนวโน้มการเติบโตในทิศทางที่ดี ดังนั้นบริษัทจึงได้เตรียมขยายการพัฒนาโครงการใหม่สู่กลุ่มลูกค้าอย่างต่อเนื่องอีกด้วย

สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจของบริษัทแสนสิริในช่วงไตรมาส 4/55 นายเศรษฐา กล่าวว่า บริษัทฯ ยังคงมุ่งมั่นที่จะขยายฐานการดำเนินธุรกิจให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยจะเปิดตัวโครงการที่อยู่อาศัยใหม่เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าอย่างครอบคลุมทุกความต้องการ นอกจากนี้การที่บริษัทประสบความสำเร็จ ด้านยอดขายตั้งแต่เริ่มต้นไตรมาสเพียง 2 สัปดาห์ ยังทำให้คาดว่าบริษัทจะสามารถสร้างยอดขายปิดไตรมาสสุดท้ายได้ถึง 14,000 ล้านบาท ซึ่งนับเป็นเป้าหมายยอดขายที่สูงที่สุดที่เคยคาดการณ์ในช่วงไตรมาสเดียว ซึ่งจะส่งผลให้ปิดยอดขายได้ 40,000 ล้านบาท ตามเป้าหมายยอดขายใหม่ที่มีการปรับครั้งล่าสุดอย่างแน่นอน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ