ตลาดหลักทรัพย์ปิดตลาดช่วงบ่ายวันนี้ที่ระดับ 1,290.56 จุด ลดลง 6.42 จุด(-0.49%) มูลค่าการซื้อขาย 26,693.84 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนลบตลอดทั้งวัน โดยขยับขึ้นแตะจุดสูงสุดของวันที่ระดับ 1,295.61 จุด ส่วนดัชนีจุดต่ำสุดของวันอยู่ที่ 1,286.12 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 192 หลักทรัพย์ ลดลง 335 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 153 หลักทรัพย์
น.ส.ธีรดา ชาญยิ่งยงค์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป(ประเทศไทย)กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ผันผวนในแดนลบ โดยในช่วงเช้าได้รับแรงกดดันจากกลุ่ม ICT ในเรื่องของการประมูล 3G แต่พอในช่วงบ่ายหลังศาลปกครองแถลงไม่รับฟ้องคดีนักวิชาการค้าน 3G ก็ทำให้หุ้นในกลุ่ม ICT มีการฟื้นตัวกลับขึ้นมาได้ แต่ก็ไม่เพียงพอที่จะทำให้ดัชนีฯพลิกเป็นบวกได้ ทั้งนี้ตลาดฯกำลังรอดูปัจจัยใหม่
อย่างไรก็ดี ช่วงนี้คงจะต้องติดตามข้อมูลเศรษฐกิจจากนอกประเทศเป็นหลัก และติดตามการทยอยประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนทั้งของในประเทศ และต่างประเทศด้วย
"ตลาดฯปรับตัวลงคงจะเป็นการปรับฐาน หลังจากที่พยายามจะขึ้นไปทดสอบระดับ 1,300 จุดหลายครั้ง แต่ก็ยังไม่ผ่าน ทำให้ตลาดฯเริ่มพักฐาน ขณะเดียวกันตลาดฯก็ขาดกำลังหนุนด้วย"น.ส.ธีรดา กล่าว
สำหรับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียวันนี้ก็มีการแกว่งตัวทั้งในแดนบวก-ลบ โดยช่วงเช้าจะอยู่ในแดนลบ แต่ช่วงบ่ายเริ่มอยู่ในแดนบวก หลังจากที่ตลาดยุโรปเปิดมาเป็นบวก และดาวโจนส์ฟิวเจอร์สก็อยู่ในแดนบวก ขณะที่ปัจจัยที่นักลงทุนยังคงกังวลใจอยู่เป็นเรื่องภาพเศรษฐกิจโลกที่ยังชะลอตัว
แนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้(16 ต.ค.)น.ส.ธีรดา กล่าวว่า ตลาดฯคงจะแกว่งตัวในกรอบและมี upside น้อย เว้นแต่คืนนี้ดาวโจนส์เป็นบวกมาก ก็อาจะทำให้ตลาดฯดีขึ้นได้บ้าง นอกจากนี้พรุ่งนี้จะมีลุ้นการเคาะประมูล 3G ได้รับความสนใจกันมากจึงต้องติดตามดูด้วย พร้อมให้แนวรับ 1,280 จุด แนวต้าน 1,300 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
INTUCH มูลค่าการซื้อขาย 2,111.87 ล้านบาท ปิดที่ 63.50 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 1,410.21 ล้านบาท ปิดที่ 202.00 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
TRUE มูลค่าการซื้อขาย 1,220.55 ล้านบาท ปิดที่ 5.60 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
VGI มูลค่าการซื้อขาย 953.42 ล้านบาท ปิดที่ 58.25 บาท ลดลง 1.00 บาท
CPALL มูลค่าการซื้อขาย 766.57 ล้านบาท ปิดที่ 39.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท