ตลาดหุ้นยุโรปปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (16 ต.ค.) หลังจากรัฐสภาเยอรมนีระบุว่า เยอรมนีเปิดกว้างสำหรับการที่สเปนจะขอเครดิตไลน์จากกองทุนช่วยเหลือของยุโรป นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนเยอรมนีที่ออกมาสูงกว่าคาดการณ์ในเดือนต.ค.
ดัชนี Stoxx Europe 600 Index พุ่งขึ้น 1.3% ปิดที่ 274.38 จุด
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 7,376.27 จุด เพิ่มขึ้น 115.02 จุด ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 3,500.94 จุด เพิ่มขึ้น 80.66 จุด และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 5,870.54 จุด เพิ่มขึ้น 64.93 จุด
ตลาดหุ้นยุโรปพุ่งขึ้นหลังจากเยอรมนีเปิดกว้างสำหรับการที่สเปนจะขอเครดิตไลน์จากกองทุนช่วยเหลือของยุโรป นอกจากนี้ ตลาดยังขานรับรายงานของศูนย์วิจัยเศรษฐกิจยุโรป (ZEW) ที่ระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจของนักลงทุนเยอรมนีในเดือนต.ค.เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ติดลบ 11.5 จากติดลบ 18.2 ในเดือนก.ย.
นอกจากนั้น ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ โดยธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เผยการผลิตในภาคอุตสาหกรรมของสหรัฐในเดือนก.ย.เพิ่มขึ้น 0.4% และอัตราการใช้กำลังการผลิตอยู่ที่ 78.3% ซึ่งเพิ่มขึ้นจาก 78% ในเดือนส.ค.
ข้อมูลการผลิตภาคอุตสาหกรรมในเดือนก.ย.ออกมาดีเกินคาด โดยก่อนหน้านี้ นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่า การผลิตจะขยับขึ้น 0.2% และอัตราการใช้กำลังการผลิตจะอยู่ที่ 78.2%
ขณะที่สมาคมผู้สร้างบ้านแห่งชาติ (NAHB) ของสหรัฐ เผยดัชนีตลาดที่อยู่อาศัยเดือนต.ค.ปรับขึ้นแตะ 41 จาก 40 ในเดือนก.ย. โดยเป็นการปรับตัวขึ้นต่อเนื่องและทำสถิติสูงสุดครั้งใหม่ในรอบ 6 ปี ทั้งนี้ ดัชนีตลาดที่อยู่อาศัยเดือนต.ค.สอดคล้องกับคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ และแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย.2549
หุ้นกลุ่มธนาคารพุ่งขึ้น โดยหุ้นบีเอ็นพี พาริบาส์ พุ่งขึ้น 4.3% หุ้นดอยช์ แบงก์ ดีดตัวขึ้น 5.1% และหุ้นบังโค ซานตานเดร์ ทะยานขึ้น 4.3%
หุ้นริโอทินโตในกลุ่มเหมืองแร่ พุ่งขึ้น 2.9% หลังจากบริษัทเปิดเผยยอดการผลิตสินแร่เหล็กพุ่งขึ้นแตะระดับ 52.6 ล้านตันในช่วงไตรมาส 3 ซึ่งสูงกว่าที่คาดการณ์โดยเฉลี่ยที่ 50.65 ล้านตัน