(เพิ่มเติม) LVT บันทึกขายหุ้นอินเดีย 180 ลบ.Q4/55,คาดbacklog เพิ่ม700ลบ.ก่อนสิ้นปี

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday October 17, 2012 12:58 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บมจ.แอล. วี. เทคโนโลยี (LVT) เตรียมบันทึกรายได้พิเศษราว 180 ล้านบาทในไตรมาส 4/55 จากการขายหุ้น 25% ในบริษัท แอล เอ็นวี เทคโนโลยี ไพรเวท จำกัด (LNVT) ให้กับ Huaxin (Hong Kong) International Holdings Limited ส่งผลปีนี้พลิกเป็นกำไรสุทธิ แม้ว่าการดำเนินงานปกติยังขาดทุน

ขณะที่บริษัทเดินหน้าขยายงานอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการรับงานในต่างประเทศ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจาเข้ารับงานใหม่เพิ่มเติมในประเทศบราซิล 1 โครงการ และคาดว่าสิ้นปีนี้จะมีงานในมือ(backlog)เพิ่มเป็น 3.2 พันล้านบาท จากขณะนี้มีอยู่ 2.5 พันล้านบาท โดยบริษัทคาดว่าภายในไตรมาส 3/55 และไตรมาส 4/55 จะรับรู้รายได้ส่วนหนึ่งจาก backlog ราว 1 พันล้านบาท

นายแฮนส์ จอร์เกน เนียลเซ่น กรรมการผู้จัดการ LVT กล่าวว่า บริษัทคาดว่าผลประกอบการในปี 55 จะพลิกเป็นกำไรสุทธิเป็นจากการบันทึกรายได้พิเศษขายหุ้นในอินเดียราว 180 ล้านบาท ขณะที่ผลการดำเนินปกติยังขาดทุน แต่ขาดทุนลดลง เนื่องจากงานโครงการที่มีผลขาดทุนจบไปแล้วตั้งแต่ไตรมาส 2/55 จากนี้ไปงานที่จะรับรู้รายได้เป็นงานที่มีกำไร

"2 ไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ผลประกอบการน่าจะเป็นกำไร โดยเฉพาะครึ่งปีหลังมีงานโครงการในมาเลย์จะมีผลให้เบรกอีเวนท์ได้เพราะใกล้ปิดโครงการ ปัจจุบันอยู่ระหว่างเคลมลูกค้า ซึ่งยังไม่ได้บันทึกเป็นรายได้ ถ้าเคลมได้ก็จะบันทึกเป็นรายได้เข้ามาในสิ้นปีนี้"นายเนียลเซ่น กล่าว

ต่อจากนี้ไปบริษัทจะรักษาอัตรากำไรขั้นต้นไม่ให้ต่ำกว่า 15% ซึ่งจะทำให้ตั้งแต่ปี 56 เป็นต้นไปบริษัทจะมีกำไรจากการดำเนินงานปกติ โดยคาดว่าสิ้นปี 56 จะสามารถล้างขาดทุนสะสมที่มีอยู่กว่า 200 ล้านบาทได้หมด ด้วยการนำกำไรจากการขายหุ้นบริษัทย่อยและกำไรจากการดำเนินงานปกติไปใช้ล้างขาดทุนฯ

ดังนั้น บริษัทคาดหวังว่าสิ้นงวดปี 57 จะสามารถกลับมาจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้นได้อีกครั้ง หลังจากที่บริษัทจะรับรู้รายได้จากการลงทุนในธุรกิจโรงปูนซิเมนต์ในประเทศพม่า คาดว่าจะมีรายได้เข้ามาตั้งแต่ปี 57 เบื้องต้น 100-150 ล้านบาท /ปี

"การลงทุนใน Max ที่พม่า ถ้าได้ผลกำไรกลับมาก็จะเป็นองค์ประกอบในการแบ่งเป็นเงินปันผล โดยคาดรายได้ 100-150 ล้านบาท/ปี (หรือรายได้จากการลงทุน) เมื่อถึงตอนนั้นบริษัทก็จะให้มีกำไรและรายได้ที่เสถียรขึ้น"นายเนียลเซ่น กล่าว

สำหรับผลประกอบการในปี 56 คาดว่าจะมีรายได้ 3,000 ล้านบาท ใกล้เคียงปีนี้ ขณะนี้บริษัทได้ยื่นประมูลงานใหม่ไปแล้วกว่า 2,000 ล้านบาท เป็นงานต่างประเทศ เช่น บราซิล บาเรนห์ และเกาหลีใต้ มั่นใจว่าจะได้รับงานเข้ามาราว 1,000 ล้านบาท ซึ่งจะรู้ผลภายในเดือนพ.ย.นี้ทั้งหมด ก็จะเป็นฐานรายได้ของปีหน้าเป็นต้นไป

ขณะที่การร่วมลงทุนในบริษัท MAX Manufacturing ประเทศพม่า เพื่อตั้งโรงงานผลิตปูนซิเมนต์ 2 แห่งนั้น LVT จะเข้าไปร่วมลงทุนราว 130 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยนำเงินจากการออกหุ้นสามัญใหม่จำนวน 396 ล้านหุ้น เสนอขายให้นักลงทุนเฉพาะเจาะจง(PP)51 ล้านหุ้น ขณะนี้อยู่ระหว่างเจรจากับผู้ลงทุนในอินเดีย และที่เหลือให้ผู้ถือหุ้นเดิม

ทั้งนี้ หากเพิ่มทุนสำเร็จ LVT จะถือหุ้นใน Max 15% ผู้ร่วมทุนต่างประเทศอีก 15% และผู้ก่อตั้ง Max อีก 70% ตั้งเป้าผลตอบแทนจากการลงทุน 28% คาดถึงจุดคุมทุนใน 3-4 ปี แต่ถ้าหากราคาขายปูนในพม่าปรับขึ้นมาก็จะทำให้โครงการดังกล่าวถึงจุดคุ้มทุนเร็วกว่าแผน


แท็ก Hong Kong   อินเดีย   (LVT)  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ