(เพิ่มเติม) ฟิทช์คงอันดับเครดิต PTTGC ที่ 'AA-(tha)' แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday October 17, 2012 14:41 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด ประกาศคงดันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของบมจ.พีทีที โกลบอล เคมิคอล (PTTGC) ที่ 'AA-(tha)' แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ และอันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้นที่ 'F1+(tha)' ในขณะเดียวกันฟิทช์คงอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของหุ้นกู้ไม่มีหลักประกันและไม่ด้อยสิทธิของ PTTGC ที่ 'AA-(tha)'

อันดับเครดิตของ PTTGC ได้รับปัจจัยสนับสนุนจากสถานะของบริษัทฯที่เป็นผู้ผลิตต่อเนื่องครบวงจรตั้งแต่การกลั่นน้ำมันไปจนถึงการผลิตผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย บริษัทฯมีความหลากหลายของผลิตภัณฑ์และวัตถุดิบรวมถึงการได้ประโยชน์จากการมีขนาดการผลิตที่ใหญ่ นอกจากนี้บริษัทฯยังมีความได้เปรียบในเรื่องต้นทุนการผลิตเนื่องจากวัตถุดิบหลักที่ใช้ในการผลิตโอเลฟินส์มาจากก๊าซธรรมชาติซึ่งจัดหาได้จากในประเทศและมีราคาถูกกว่าโดยเปรียบเทียบซึ่งทำให้บริษัทฯมีความได้เปรียบในการแข่งขันเมื่อเทียบกับคู่แข่งที่ใช้วัตถุดิบจากแนฟทา

ฟิทช์ได้ปรับเพิ่มประมาณการอัตราส่วนหนี้สินของ PTTGC ในระยะหนึ่งถึงสามปีข้างหน้า สืบเนื่องจากแนวโน้มของธุรกิจปิโตรเคมีและการกลั่นที่อ่อนตัวกว่าที่คาดการณ์ไว้ รวมถึงต้นทุนวัตถุดิบที่เพิ่มสูงขึ้นเนื่องจากการเจรจาปรับราคาก๊าซธรรมชาติตามสัญญาการจัดหาก๊าซธรรมชาติจากปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT (‘AAA(tha)’/Stable) ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2555 เป็นต้นมา ฟิทช์คาดว่าธุรกิจปิโตรเคมีและการกลั่นน้ำมันจะถูกกดดันจากสถานการณ์เศรษฐกิจโลกที่อ่อนตัวในปี 2555 และต่อเนื่องไปในปี 2556 เมื่อพิจารณาถึงปัจจัยดังกล่าว ประกอบกับค่าใช้จ่ายเพื่อการลงทุนในระหว่างปี 2555 — 2559 ที่อนุมัติแล้ว (ประมาณ 7 หมื่นล้านบาท โดยรวมถึงค่าใช้จ่ายเพื่อการซ่อมแซม ) ฟิทช์คาดว่าอัตราส่วนหนี้สินสุทธิที่ปรับปรุงแล้วต่อกำไรจากการดำเนินงานก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อม ค่าตัดจำหน่าย และค่าเช่า (Adjusted net debt to EBITDAR) ของบริษัทน่าจะอยู่ในระดับประมาณ 1.5 เท่า ถึง 2.0 เท่า ในช่วงปี 2555 ถึง 2556 จากประมาณการเดิมที่ระดับต่ำกว่า 1.5 เท่า

อย่างไรก็ตาม PTTGC กำลังศึกษาความไปได้ที่จะลงทุนอีกประมาณ 4.5 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ หนึ่งแสนสี่หมื่นล้านบาท เพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งของธุรกิจ ฟิทช์มองว่าหากบริษัทฯลงทุนตามแผนการลงทุนใหม่นี้ภายในปี 2559 ภายใต้ความสามารถการสร้างกระแสเงินสดที่คาดการณ์ไว้ โดยไม่ได้มีการเพิ่มทุน อัตราส่วนต่างๆที่ใช้ในการพิจารณาอันดับเครดิตของบริษัทฯน่าจะอ่อนแอลงอย่างมาก ซึ่งอาจจะกระทบอันดับเครดิตในทางลบ หากบริษัทฯไม่สามารถดำรงอัตราส่วนหนี้สินสุทธิที่ปรับปรุงแล้วต่อกำไรจากการดำเนินงานก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อม ค่าตัดจำหน่าย และค่าเช่า ให้อยู่ในระดับต่ำกว่า 2.25 เท่า อย่างต่อเนื่อง ฟิทช์จะทำการทบทวนอันดับเครดิตอีกครั้งหลังจากแผนการลงทุนต่างๆได้รับการอนุมัติและประกาศอย่างเป็นทางการจากบริษัทฯ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ