นางอรนุช อภิศักดิ์ศิริกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มทิสโก้ เปิดเผยว่า ภาพรวมการดำเนินธุรกิจของกลุ่มทิสโก้ในไตรมาส 3/55 มีการเติบโตขึ้นอย่างโดดเด่นในทุกกลุ่มธุรกิจ โดยมีกำไรสุทธิสูงสุดเป็นประวัติการณ์จำนวน 953 ล้านบาท หรือเติบโต 6% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ตามการขยายตัวของสินเชื่อทุกภาคส่วนซึ่งเพิ่มขึ้นถึง 23.3% จากสิ้นปี 54 และรายได้ค่าธรรมเนียมที่เติบโตอย่างแข็งแกร่งถึง 48% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนหน้า
"เศรษฐกิจไทยในไตรมาส 3 ที่ผ่านมามีการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง ตามการบริโภคในประเทศและการใช้จ่ายของภาครัฐที่ขยายตัวอย่างมาก แม้ว่าจะยังมีเรื่องของความผันผวนของเศรษฐกิจโลก และการแข่งขันที่รุนแรง แต่การดำเนินธุรกิจของกลุ่มทิสโก้ก็ยังคงมีการเติบโตอย่างโดดเด่น"นางอรนุช กล่าว
ภาพรวม 9 เดือนที่ผ่านมา สินเชื่อมีการเติบโตสูงมากในทุกกลุ่ม โดยเฉพาะอย่างยิ่งสินเชื่อเช่าซื้อที่เติบโตตามยอดจำหน่ายรถยนต์ที่เพิ่มขึ้นเป็นประวัติการณ์ โดยขยายตัวเพิ่มขึ้น 20.4% จากสิ้นปี 54 ส่วนสินเชื่ออื่นๆ ที่เกี่ยวกับรถยนต์ อาทิ สินเชื่อทะเบียนรถยนต์ รวมถึงสินเชื่อธุรกิจ ก็มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องด้วยเช่นกัน
ในส่วนของรายได้ค่าธรรมเนียมมีการขยายตัวดีในทุกๆ ด้าน โดยเฉพาะรายได้ค่าธรรมเนียมที่เกี่ยวกับการปล่อยสินเชื่อ รายได้ค่านายหน้าประกันภัย และรายได้จากการซื้อขายหลักทรัพย์ ประกอบกับการทำกำไรจากเงินลงทุนบางส่วนในช่วงที่ภาวะตลาดทุนกำลังสดใส ทางด้านเงินฝากก็มีการปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างมาก เพื่อระดมทุนมาขยายธุรกิจต่อไปในอนาคต โดยเฉพาะเงินฝากประจำที่มีสัดส่วนเพิ่มขึ้นอย่างโดดเด่นมาก โดยปัจจุบันมีสัดส่วนถึง 71% ของโครงสร้างเงินฝากทั้งหมด ขณะที่สัดส่วนของตั๋วแลกเงินลดลงอย่างต่อเนื่อง"
นางอรนุช กล่าวว่า สำหรับกลยุทธ์การดำเนินงานในไตรมาส 4/55 กลุ่มทิสโก้ยังคงมุ่งมั่นเดินหน้าธุรกิจภายใต้จุดยืนตอบสนองทุกโจทย์การเงินให้ลูกค้าทุกกลุ่ม ด้วยการให้คำปรึกษาด้านการเงินและการลงทุนที่ครบวงจรโดยบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญ พร้อมทั้งพัฒนาผลิตภัณฑ์ทางการเงินและช่องทางในการให้บริการ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมาย โดยล่าสุดได้เปิดสาขาเพิ่มอีก 1 แห่ง ที่ห้างเกตเวย์ เอกมัย ที่เปิดให้บริการแล้วในไตรมาส 3 ที่ผ่านมา โดยปัจจุบันมีสาขาธนาคารรวมทั้งสิ้น 47 แห่งทั่วประเทศ
"เป้าหมายของทิสโก้ คือเราจะมุ่งรักษาอัตราการเติบโตในระยะยาวท่ามกลางการแข่งขันที่รุนแรง โดยจะรักษาการเติบโตให้ได้ที่ระดับ 15% โดยเฉลี่ยต่อปี ซึ่งจากภาพรวม 9 เดือนที่ผ่านมา ถือว่าเราทำได้สูงกว่าเป้าหมายมาก และมองว่าไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ก็จะมีการเติบโตที่ดีเช่นกัน แม้สินเชื่ออาจจะลดความร้อนแรงลงบ้างในไตรมาสสุดท้าย ซึ่งเป็นวงจรปกติ แต่เชื่อว่าจะมีปัจจัยบวกอื่นๆ เช่น ธุรกิจที่เกี่ยวกับตลาดหลักทรัพย์ที่จะดีขึ้นตามภาวะตลาดที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และเชื่อมั่นว่าภาพรวมธุรกิจของปีนี้ทั้งปีจะเป็นปีที่น่าพอใจมากของทิสโก้" นางอรนุช กล่าว