บมจ.พลังงานบริสุทธิ์(EA)แต่งตั้งบริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ (APM) เป็นที่ปรึกษาทางการเงินแอส ยื่นคำขอพร้อมแบบแสดงรายการข้อมูล(ไฟลิ่ง)ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.)เพื่อเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนเป็นครั้งแรก(IPO)จำนวน 560 ล้านหุ้น ก่อนเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ(mai) เพื่อระดมเงินทุนสร้างโรงไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์และพลังงานลม
EA ประกอบธุรกิจเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายน้ำมันไบโอดีเซล (B100) น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว กลีเซอรีนบริสุทธ์ และวัตถุดิบและผลิตภัณฑ์พลอยได้จากกระบวนการผลิตไบโอดีเซล รวมถึงธุรกิจผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทดแทน และเป็นผู้ผลิตรายต้น ๆ ที่ได้รับใบรับรองมาตรฐานการผลิตน้ำมันปาล์มอย่างยั่งยืน(RSPO)ของประเทศไทย
บริษัทมีเป้าหมายตั้งโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ 4 โครงการ ขนาดกำลังการผลิตรวม 278 เมกะวัตต์ โดยขณะนี้มีโครงการแรกขนาด 8 เมกะวัตต์ ใน จ.ลพบุรี ซึ่งสามารถจ่ายกระแสไฟฟ้าให้กับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค(กฟภ.)ได้แล้วในเดือน ต.ค.55 และจะเริ่มรับรู้รายได้เข้ามาในไตรมาส 4/55 ขณะที่โครงการต่อไปเป็นโรงไฟฟ้าขนาด 90 เมกะวัตต์ที่ จ.นครสวรรค์ อยู่ระหว่างการจัดหาเงินทุน รวมถึงใน จ.ลำปาง และ จ.พิษณุโลก อีกโครงการละ 90 เมกะวัตต์
นอกจากนั้น บริษัทยังมีแผนขยายธุรกิจไปยังโรงไฟฟ้าพลังงานลมอีก 10 โครงการในอนาคต ขนาดกำลังการผลิตรวม 404 เมกะวัตต์ ใน จ.นครศรีธรรมราช และ จ.ชัยภูมิ
นาสมภพ ศักดิ์พันธ์พนม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร APM คาดว่าจะสามารถกำหนดราคาขายหุ้น IPO ได้ต้นเดือนธ.ค.นี้ และคาดว่าจะเข้าเทรดในตลาด mai ได้ทันปลายปีนี้อย่างช้าก็ต้นปี 56 โดยขณะนี้ยื่นไฟลิ่งกับสำนักงานก.ล.ต.แล้ว ราว 12 พ.ย.นี้ก.ล.ต.และตลาดฯจะไปดูโครงการที่ลพบุรี คาดดีลจะชัดเจนขึ้น หลังจากนั้นจะเดินสายโรดโชว์ 11 จังหวัด
"คาดว่าจะนำหุ้นเข้าเทรดทันปลายปีนี้ เพื่อเป็นของขวัญคริสมาสต์"นายสมภพ กล่าว
นายสมโภชน์ อาหุนัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าวว่า ปี 55 ตั้งเป้าปริมาณขายไบโอดีเซลเกิน 100 ล้านลิตร จากปีก่อนขายได้ 92 ล้านลิตร โดยครึ่งปีแรกมีปริมาณขายแล้ว 53 ล้านลิตร ส่วนรายได้ปีนี้ยังประมาณการยาก เพราะรัฐบาลเป็นผู้กำหนดราคาขาย แต่เชื่อว่าจะทำได้สูงกว่าปีก่อนที่ 5.4 พันล้านบาทตามปริมาณขายที่เพิ่มขึ้น
ขณะที่กำไรสุทธิจะสูงกว่าปี 54 อย่างก้าวกระโดด เพราะครึ่งปีแรกบริษัทมีกำไรสูงกว่าปี 54 ทั้งปีที่ 63 ล้านบาทแล้ว เนื่องจากบริษัทพัฒนาระบบการผลิตมีการบริหารต้นทุนและควบคุมกระบวนการผลิตได้ดีขึ้น แนวโน้มครึ่งปีหลังกำไรก็น่าเป็นไปในทิศทางเดียวกัน และจะรักษาอัตรากำไรขั้นต้นไม่ต่ำกว่า 10% ซึ่งสิ่งที่ต้องทำก็คือควบคุมต้นทุนให้มีประสิทธิภาพ ซื้อวัตถุดิบในระดับที่เหมาะสม โดยวัตถุดิบหลักมาจากปาล์มดิบ
ปัจจุบัน กำลังการผลิตไบโอดีเซลอยู่ที่ 8 แสนลิตร/วัน และกรีนสลีน 10% ของไบโอฯ ลูกค้าหลักคือ PTT, TOP, ESSO, IRPC และ เชฟรอน ซึ่งทำสัญญาต่อเนื่อง 3-6 เดือน
นายสมโภชน์ กล่าวว่า ขณะนี้รายได้หลักของบริษัทยังเป็นไบโอดีเซล แต่ในปี 59 เป็นต้นไปรายได้จะเป็นไบโอดีเซล 50% ธุรกิจไฟฟ้า 50% โดยตั้งเป้ารายได้แตะ 10,000 ล้านบาท หลังโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์เสร็จครบ 4 โครงการ ขนาดกำลังผลิตรวม 278 เมกกะวัตต์ ช่วงปลายปี 58 ทยอยแล้วเสร็จปีละ 1 โรง ซึ่งมูลค่าการลงทุนโครงการใหญ่จะอยู่ที่โครงการละ 6,680 ล้านบาท