"เราเชื่อมั่นว่าความรู้ความเข้าใจในเรื่องการเก็บออม การลงทุน การแบ่งเงินใช้ให้เป็น เป็นรากฐานสำคัญของสังคม ถ้ามีการออกมาจำนวนมากก็จะเกิดสะสมทุน และเข้าไปลงทุน และนำมาเป็นเงินทุนเข้าสู่ระบบ ก็จะทำให้สังคมเข้มแข็ง ประเทศชาติก็มีความแข้มแข็งทางเศรษฐกิจ" นายวรพล กล่าวในงานสัมนา"เปลี่ยนประเทศไทยให้รู่งเรืองด้วยความรู้ทางการเงิน"นายวรพล กล่าว
ยกตัวอย่างหากมีคนเพียง 100,000 คน เริ่มเก็บออมเพื่อเกษียณเดือนละ 10,000 บาทผ่านกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพทุกเดือนใน 1 ปีจะทำให้มีเงินลงทุนเพิ่มขึ้น 120,000 บาท ถ้ามีวินัยลงทุนทุกปีเป็นเวลา 20 ปี และได้ผลตอบแทนจากการลงทุนปีละ 5% แต่ละคนจะมีเงินออมเพื่อเกษียณ คนละ 4 ล้านบาท รวมมูลค่าเงินลงทุน 4 แสนล้านบาท ทำให้มีเงินลงทุนไหลเข้าตลาดทุนต่อเนื่องในระยะยาว และส่งผลให้บริษัทที่ต้องการระดมทุนจากตลาดทุนได้ใช้ประโยชน์ไปขยายกิจการต่อเนื่อง
สาเหตุที่ ก.ล.ต.ผลักดันยุทธศาสตร์เปลี่ยนประเทศไทยให้รุ่งเรืองด้วยความรู้ทางการเงิน เป็นเพราะคนไทยไม่มีทักษะการจัดการลงทุน, ไม่มีวินัย ไม่รู้จักเก็บออม, ไม่สามารถเพิ่มผลิตผลของประเทศได้ทั้งที่จะเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุในปี 2563, ไม่มีรายได้พอดูแลตัวเองเมื่อหมดวัยทำงาน ไม่เข้าใจวิธีการออม กลายเป็นภาระของประเทศ และสังคมไม่ให้ความสำคัญเรื่องการออมเพื่อเกษียณ
ด้านนางดัยนา บุนนาค กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ คณะกรรมการกำกับตลาดทุน ก.ล.ต.เห็นว่า เรื่องการออม ควรเป็นวาระของชาติและเป็นยุทธศาสตร์แห่งชาติ และเห็นว่าที่ผ่านมาหลายหน่วยงานต่างคนต่างทำ เช่น ก.ล.ต., ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) , ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.) จึงเสนอให้ร่วมมือกันทำและลงมือทำ จะเกิดพลังการเปลี่ยนแปลง ไม่ควรรอให้เกิดองค์กรอิสระเกิดขึ้นก่อนจึงจะทำ
นอกจากนี้ ขอความร่วมมือกับภาคเอกชนนอกเหนือภาครัฐ ได้แก่ ธนาคารพาณิชย์ บริษัทประกันชีวิต บริษัทหลักทรัพย์ที่สามารถช่วยการทำแบบสำรวจหรือแบบสอบถามในเรื่องการออม และลงมือช่วยให้ความรู้ทางการเงิน และทำการสำรวจอย่างต่อเนื่อง
ปัจจุบันสภาพสังคมมีลักษณะรวยกระจุก จนกระจาย ทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำในสังคม ทั้งนี้ตัวเลขสิ้น ส.ค. 55 จากธปท. พบว่า มีบัญชีเงินฝากจำนวน 1.85 แสนบัญชี จากทั้งหมด 86 ล้านบัญชี เป็นเจ้าของบัญชีเงินฝาก 50% ของเงินฝาก
ด้าน นพ.ชาญวิทย์ วสันต์ธนารัตน์ ผู้จัดการแผนงานสุขภาวะองค์กรภาคเอกชน สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวว่า จากการที่ได้พบผู้มีปัญหาสุขภาพ ได้พบว่าสาเหตุมาจากสุขภาพทางการเงิน และทำให้เกิดปัญหาชีวิตตามมา ดังนั้น ต้องมีสุขภาพทางการเงินดี จะทำให้คนทำงานทำงานอย่างมีทักษะ นอกจากนี้ต้องมีทักษะการใช้ชีวิต เพราะสังคมเปลี่ยนแปลงเร็ว
นายกฤษฎา เสกตระกูล ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ ศูนย์ส่งเสริมการพัฒนาความรู้ตลาดทุน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.) กล่าวว่า ตลาดหลักทรัพย์ให้ความสำคัญเรื่องการออกม และเห็นด้วยที่จะทำเรื่องการออมเป็นวาระของชาติ จะทำให้คนไทยมีความมั่นคงในระยะยาว ทั้งนี้ ต้องรู้จักการสร้างความมั่งคั่ง รู้จักปกป้องความมั่งคั่ง รู้จักต่อยอดความมั่งคั่ง และกระจายความมั่งคั่ง