(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้แกว่งแคบ-รอปัจจัยใหม่หนุน, แนะเกาะติดปัจจัยนอกปท.

นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ สำนักวิจัยทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้แกว่งตัวในกรอบแคบ โดยตลาดกำลังรอปัจจัยใหม่เข้ามา โดยเฉพาะจากการประชุมอียูที่มีในวันที่ 18-19 ต.ค.นี้

สำหรับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่จะมาในทางลบ ซึ่งปัจจัยจากสหรัฐฯเมื่อคืนที่ผ่านมาก็มีตัวเลขเศรษฐกิจที่ออกมาคละกันทั้งดีกว่าคาด และแย่กว่าคาด โดยตัวเลขชี้นำเศรษฐกิจของสหรัฐฯออกมาดีกว่าคาด แต่ตัวเลขจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานออกมาเพิ่มขึ้น ซึ่งถือว่าแย่กว่าคาดและเป็นปัจจัยลบ

อย่างไรก็ดี หากมองที่ Flow ดูเหมือนจะมีสัญญาณการกลับมา จากที่นักลงทุนต่างชาติได้ซื้อสุทธิต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 ดังนั้นหากตลาดฯจะปรับตัวลงคงจะไม่มาก

ทั้งนี้ ในวันนี้ควรติดตามตัวเลขยอดขายบ้านมือ 2 ของสหรัฐฯในวันนี้ และคำสั่งซื้อสินค้าภาคโรงงานของอิตาลีงวดเดือนสิงหาคม พร้อมให้แนวรับ 1,305-1,306 จุด แนวต้าน 1,314-1,315 จุด

ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :

• ตลาดหุ้นนิวยอร์คเมื่อวานนี้(18 ต.ค.)ดัชนีดาวโจนส์ ปิดที่ 13,548.94 จุด ลดลง 8.06 จุด(-0.06%) ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 1,457.34 จุด ลดลง 3.57 จุด(-0.24%) และดัชนีแนสแด็ก ปิดที่ 3,072.87 จุด ลดลง 31.26 จุด(-1.01%)
• ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้านี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ ลดลง 38.83 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ ลดลง 1.87 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 47.04 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ ลดลง 21.80 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ ลดลง 4.79 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ ลดลง 6.57 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์เปิดวันนี้ ไม่เปลี่ยนแปลง, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ ลดลง 0.19 จุด และดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 2.60 จุด
• ตลาดหุ้นไทยปิดเมื่อวานนี้(18 ต.ค.)ที่ระดับ 1,311.21 จุด เพิ่มขึ้น 9.93 จุด(+0.76%)
• นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 898.56 ล้านบาทเมื่อ 18 ต.ค.55
• ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน พ.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการเมื่อวานนี้ที่ 92.10 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 0.02 ดอลลาร์
• ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์เมื่อวานนี้(18 ต.ค.)ปิดทำการที่ 6.9 เหรียญฯ/บาร์เรล
• เงินบาทเปิดเช้านี้ 30.67/69 อ่อนค่าตามยูโรและภูมิภาค รอความชัดเจนกรณีสเปน-ผลประชุมอียู
• กสทช. ยันไม่เข้าข่ายฮั้วศาลปกครองจำหน่ายคดีออกจากสารบบ, บอร์ดกทค.ถกเดือดกว่า 3 ชั่วโมง ก่อนลงมติรับรองผลประมูล3จี ด้วยเสียง 4:1 เปิดทางแจกใบอนุญาตทันทีใน 90 วัน รองปลัดคลัง ร่อนหนังสือเตือนกสทช.ส่อผิดพ.ร.บ.ฮั้ว ขัดระเบียบ อีออคชั่น ต้องยกเลิกประมูล เตรียมฟ้อง ป.ป.ช.สอบ ขณะ กสทช.ยันไม่เข้าข่ายฮั้ว ด้านสหพันธ์องค์กรผู้บริโภคยื่นกมธ. ขอถอดถอนกสทช.ทั้งชุด
• อุตสาหกรรมยานยนต์บูมทุบสถิติผลิต 2 ล้านคันในรอบ 50 ปี เผยยอดผลิตรถยนต์ เดือนก.ย. ขยายตัวสูง 31% ผลิต 2.28 แสนคัน ด้านโตโยต้าเชื่อมั่นศักยภาพไทย ทุ่ม 1.6 หมื่นล้านเดินหน้าเพิ่มผลิตเครื่องยนต์ดีเซลรองรับตลาดเกิดใหม่ ด้าน บริดจสโตน คอร์ป เตรียมเม็ดเงิน 1.1 แสนล้าน ขยายกำลังผลิตยางในตลาดเกิดใหม่ รวมไทยและอินเดีย
• "ประสาร" ย้ำ กนง.ลดดอกเบี้ยเพื่อ "ตั้งการ์ด" รับความเสี่ยงเศรษฐกิจโลกที่เพิ่มขึ้น ยันยังเหลือ "กระสุน" ไว้ใช้ครบถ้วน ด้านเอกชนเสนอลดอีก 0.25% หนุนส่งออกทรุด ขณะที่ กบข.รับผลกระทบ ผลตอบแทนลงทุนตราสารหนี้ลดลง
• น.ส.ลัษมณ อรรถาพิช เศรษฐกร ธนาคารเพื่อการพัฒนาเอเชีย(เอดีบี) เห็นว่าการที่ไทยมีความจำเป็นต้องลงทุนเรื่องโครงสร้างพื้นฐานในช่วง 7 ปี เป็นเงินกว่า 2.2 ล้านล้านบาทนั้น หากคนไทยช่วยกันออมเงินก็จะทำให้มีระบบและนำมาสู่การพัฒนาประเทศได้ ทั้งนี้ไทยยังต้องมีการพัฒนาความรู้ด้านการเงิน หากทำได้ดีและมีประสิทธิภาพก็จะนำไปสู่การพัฒนาประเทศได้เป็นอย่างดี
• บลจ.ประเมินผลตอบแทนกองทุนตราสารหนี้ระยะสั้นหด หลังจาก กนง.หั่นดอกเบี้ย แนะนักลงทุนจัดสรรเงินลงทุนในตราสารหนี้ที่อายุยาว "ทิสโก้" มองแบงก์ชาติลดดอกเบี้ยเป็นสัญญาณเชิงบวกต่อเศรษฐกิจ แต่ไม่ใช่การเปลี่ยนแนวโน้มดอกเบี้ยเป็นขาลง ส่วน "กสิกรไทย" ประเมินแบงก์พาณิชย์ไม่ขยับดอกเบี้ยตาม
• น.ส.จุฬารัตน์ สุธีธร ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.)กล่าวว่า บริษัท เรตติ้ง แอนด์ อินเวสต์เมนต์ อินฟอร์เมชั่น หรืออาร์แอนด์ไอ เป็นบริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือของประเทศญี่ปุ่น ได้ประกาศปรับเพิ่มอันดับความน่าเชื่อถือของรัฐบาลไทยสกุลเงินต่างประเทศและสกุลเงินบาทจาก BBB และ BBB+ เป็น BBB+ และ A- ตามลำดับและยังคงสถานะแนวโน้มอันดับความน่าเชื่อถือของไทย(Outlook) ที่ระดับมีเสถียรภาพ (Stable) นอกจากนี้ยังยืนยันอันดับความน่าเชื่อถือหนี้รัฐบาลระยะสั้นสกุลเงินต่างประเทศที่ a-2
• นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า การที่สินเชื่อรายย่อยและสินเชื่อเช่าซื้อขยายตัวสูงมากนั้น ธปท.กำลังแยกแยะเป็นรายกลุ่มว่าเป็นอย่างไร แต่คาดว่าจะไม่ออกมาตรการอะไรมาคุมเนื่องจากการขยายตัวของสินเชื่อกลุ่มนี้ส่วนหนึ่งมาจากนโยบายของรัฐบาล เช่นโครงการรถยนต์คันแรก การพักหนี้รายย่อยของธนาคารรัฐเป็นต้น

*หุ้นเด่นวันนี้

• KTB(เมย์แบงก์ กิมเอ็ง)"ซื้อ"เนื่องจากได้รายงานกำไรสูงสุดเป็นประวัติการณ์ใน 3Q55 ที่ 8.9 พันล้านบาท ดีกว่าคาด ผลักดันโดยการเติบโตของรายได้ค่าธรรมเนียมและเงินปันผลวายุภัค อย่างไรก็ตามคาดว่า KTB จะมีการตั้งสำรองสูงใน 4Q55 ซึ่งจะกดดันกำไรเหลือเพียง 2.8-3.0 พันล้านบาท สำหรับกำไรทั้งปี 55-56 คาดเติบโตโดดเด่น 50% และ 35% ตามลำดับ โดยยังคงเชื่อว่า KTB จะยังคงเป็นธนาคารที่ได้รับผลประโยชน์สูงสุดจากการเร่งขยายการลงทุนของโครงการภาครัฐ ราคาหุ้นปัจจุบันยัง discount เมื่อเทียบกับกลุ่มค่อนข้างมาก จัดเป็น Top pick สำหรับการลงทุนระยะยาว ราคาเป้าหมาย 25 บาท
• MINT(ฟินันเซีย ไซรัส)"ซื้อ" หลังจากผ่าน low season ใน 2Q12 ไปแล้ว คาดว่ากำไรปกติใน 3Q12 จะเพิ่มถึง 34 % Q-Q และ 93% Y-Y เป็น 489 ล้านบาท แต่กำไรสุทธิ คาดลดลง 63% Y-Y เพราะ 3Q11 มีกำไรจากการปรับมูลค่าเงินลงทุนใน S&P กว่า 1 พันล้านบาท แนวโน้มกำไรใน 4Q12 จะโตต่อเนื่องเพราะเข้าสู่ช่วง high season และกำไรน่าจะทำ new high ได้อีกครั้งใน 1Q13 ที่เป็น peak season คงราคาเป้าหมายปีหน้าที่ 20 บาท
• SIRI(ฟินันเซีย ไซรัส)"ซื้อ" คาดกำไรปกติ 3Q12 -4% Q-Q, +3% Y-Y เป็น 433 ล้านบาท และคาดกำไรใน 4Q12 จะเป็นกำไรที่สูงที่สุดของปี เพราะมีการโอนคอนโดรวม 10 โครงการ มูลค่ารวม 1.2 หมื่นล้านบาท ปัจจุบัน SIRI มี backlog 4.3 หมื่นล้านบาท ทยอยรับรู้เป็นรายได้ตั้งแต่ 2H12 - 2015 คงราคาเป้าหมายปีหน้าที่ 3.5 บาท
• THANI(เมย์แบงก์ กิมเอ็ง)"ซื้อ"จากประเด็นการเติบโตของกำไรที่โดดเด่นและ Valuation ที่ยังไม่แพง ทั้งนี้กำไร 3Q55 ของ THANI เติบโตอย่างโดดเด่นเหนือความคาดหมาย ทำให้ต้องมีการปรับประมาณการกำไรปี 55-56 ขึ้น 22% และ 7% ตามลำดับ พร้อมปรับราคาเป้าหมายขึ้นเป็น 4.18 บาท (จาก 3.30 บาท)