ตลาดหุ้นสหรัฐเปิดตลาดปรับตัวลงในวันนี้ หลังจากบริษัท แคทเธอร์พิลลาร์ ปรับลดคาดการณ์แนวโน้มผลประกอบการปีนี้ ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกได้ส่งผลกระทบต่อผลประกอบการบริษัทเอกชน
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า หลังจากตลาดเปิดทำการได้ไม่นาน ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปรับตัวลง 26.07 จุด หรือ 0.20% แตะที่ 13,317.44 จุด ดัชนี S&P 500 ลดลง 1.72 จุด หรือ 0.13% แตะที่ 1,431.18 จุด แต่ดัชนี Nasdaq เพิ่มขึ้น 4.05 จุด หรือ 0.12% แตะที่ 3,009.95 จุด
ตลาดหุ้นนิวยอร์กปรับตัวลงหลังจากแคทเธอร์พิลลาร์ ซึ่งเป็นผู้ผลิตอุปกรณ์ที่ใช้ในอุตสาหกรรมก่อสร้างและเหมืองแร่รายใหญ่ระดับโลก เปิดเผยว่า กำไรในไตรมาส 3 ปีนี้เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 1.7 พันล้านดอลลาร์ หรือ 2.54 ดอลลาร์/หุ้น จากระดับ 1.14 พันล้านดอลาร์ หรือ 1.71 ดอลลาร์/หุ้น ในไตรมาส 3 ปีที่แล้ว ขณะที่ยอดขายเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 1.64 หมื่นล้านดอลลาร์ จากระดับ1.57 หมื่นล้านดอลลาร์
อย่างไรก็ตาม แคทเธอร์พิลลาร์ได้ปรับลดแนวโน้มผลประกอบการในปีนี้ โดยคาดว่ากำไรในปีนี้จะอยู่ที่ 9-9.25 ดอลลาร์ต่อหุ้น และคาดว่ายอดขายจะอยู่ที่ 6.6 หมื่นล้านดอลลาร ซึ่งลดลงเมื่อเทียบกับที่คาดการณ์ไว้เมื่อเดือนก.ค.ว่ากำไรจะอยู่ที่ 9.60 ดอลลาร์ต่อหุ้น และยอดขายจะอยู่ที่ 6.8-7.0 หมื่นล้านดอลลาร์
นอกจากนี้ บริษัทคาดการณ์ว่า การขยายตัวของยอดขายในปี 2556 นั้น แม้มีแนวโน้มว่าจจะเพิ่มขึ้น 5% แต่ก็มีโอกาสที่จะลดลง 5% เมื่อเทียบกับปี 2553 ที่ขยายตัวแข็งแกร่งถึง 31% และ 41% ในปี 2553 และ 2554 ตามลำดับ ส่วนในปีนี้คาดว่าจะขยายตัว 13%
นักลงทุนจับตาดูรายงานผลประกอบการของบริษัท ยาฮู ในวันนี้อย่างระมัดระวัง หลังจากที่บริษัทไอทีหลายแห่งได้เปิดเผยผลประกอบการที่น่าผิดหวังก่อนหน้านี้ รวมถึงไมโครซอฟท์ ซึ่งเปิดเผยว่ารายได้ในไตรมาสที่สิ้นสุดวันที่ 30 ก.ย. อยู่ที่ 1.601 หมื่นล้านดอลลาร์ ลดลง 8% ขณะที่กูเกิลรายงานว่า รายได้สุทธิในไตรมาส 3 ปีนี้ของบริษัทอยู่ที่ 2.18 พันล้านดอลลาร์ ลดลงเมื่อเทียบกับไตรมาส 3 ปีที่แล้วที่ระดับ 2.73 พันล้านดอลลาร์ ส่วนอินเทลรายงานว่าผลประกอบการในไตรมาส 3 อยู่ที่ 1.35 หมื่นล้านดอลลาร์ ลดลง 5% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาดูการประชุมระยะเวลา 2 วันของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันอังคารและวันพุธนี้ ซึ่งนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าเฟดจะยังไม่มีการดำเนินมาตรการใดๆ หลังจากที่ได้ตัดสินใจประกาศใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณรอบที่ 3 (QE3) ด้วยการเข้าซื้อพันธบัตรวงเงิน 4 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อเดือน ในการประชุมเมื่อวันที่ 13 ก.ย.ที่ผ่านมา