ตลาดหุ้นยุโรปปิดร่วงลงติดต่อกันเป็นวันที่ 3 เมื่อคืนนี้ (23 ต.ค.) โดยดัชนีร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 7 สัปดาห์ เนื่องจากนักลงทุนผิดหวังต่อผลประกอบการของบริษัทเอกชนในยุโรป รวมถึงบริษัท Alfa Laval และ D.E Master Blenders
ดัชนี Stoxx Europe 600 ร่วงลง 1.7% ปิดที่ 268.40 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดวันทำการล่าสุดที่ 3,406.50 จุด ลดลง 76.75 จุด, -2.20% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดวันทำการล่าสุดที่ 7,173.69 จุด ลดลง 154.36 จุด, -2.11% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดวันทำการล่าสุดที่ 5,797.91 จุด ลดลง 85.00 จุด, -1.44%
ตลาดหุ้นยุโรปร่วงลงต่อเนื่องจากวันจันทร์ เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับผลประกอบการของบริษัทเอกชน และความกังวลที่ว่าสเปนอาจจะต้องขอรับความช่วยเหลือด้านการเงินหากนายมาริอาโน ราฮอย ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้ง
หุ้น Alfa Laval ดิ่งลง 5.7% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการที่น้อยกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ ขณะที่หุ้น D.E Master Blenders ซึ่งเป็นบริษัทผลิตชาและกาแฟซึ่งแยกธุรกิจออกมาจาก Sara Lee Corp ร่วงลง 5.3% หลังจากบริษัทเปิดเผยว่า ราคาสินค้าที่ปรับตัวขึ้นในเยอรมนีส่งผลให้ผู้บริโภคลดการซื้อ
หุ้นกลุ่มสินค้าหรูหราชื่อดังของยุโรป เช่นหุ้น Mulberry ร่วงลง 24% และหุ้น Burberry ร่วงลง 3.2% หลังจากทั้งสองบริษัทเปิดเผยผลประกอบการที่น้อยเกินคาดเช่นกัน
ส่วนหุ้นบริษัทผลิตเคมีภัณฑ์ร่วงลงด้วย โดยหุ้น DuPont และหุ้น BASF ร่วงลงราว 4%
นักลงทุนจับตาดูรายงานเศรษฐกิจที่สำคัญของประเทศในยุโรปในช่วงเย็นวันนี้ตามเวลาไทย โดยฝรั่งเศส เยอรมนี และกลุ่มอียูจะเปิดเผยดัชนี PMI เบื้องต้นเดือนต.ค. ขณะที่อิตาลีจะเปิดเผยผลสำรวจความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนต.ค