นายเกียรติก้อง เดโช นักกลยุทธ์ บล.ซีไอเอ็มบี(ประเทศไทย) กล่าวว่า ดัชนีหุ้นไทยวันนี้มองว่าจะมีการปรับตัวลงตามภูมิภาค ซึ่งเป็นผลมาจากดาวโจนส์ลงแรง หลังผิดหวังผลประกอบการที่ทยอยประกาศผลออกมา แต่มองว่ากระทบต่อไทยไม่มากนัก อาจจะลงไปทดสอบที่แนวรับ 1,300 จุด
ส่วนในประเทศ แรงหนุนอื่นๆ เช่น แรงซื้อหุ้นพลังงาน หรือหุ้นธนาคาร ไม่น่าจะมีแล้ว หลังธนาคารพาณิชย์ประกาศผลการดำเนินงานไปแล้ว ส่วนพลังงานวันนี้ราคาน้ำมันยังปรับลดลงทำให้กลุ่มพลังงานลงตาม ส่วนหุ้นสื่อสารก็ยังมีแรงกดดันในเรื่องของการฟ้องร้องกันอยู่ เพราะฉะนั้นก็จะยังไม่มีแรงซื้อเข้ามา
"วันนี้ก็จะมีแค่เอสซีจีที่จะประกาศผลการดำเนินงานเท่านั้นเอง ซึ่งราคาก็จะสะท้อนไปพอสมควร ส่วนหุ้นที่จะยังพอเล่นได้ก็น่าจะเป็นเรื่องของหุ้นอสังหาริมทรัพย์ดูในเรื่องของผลดำเนินงาน" นายเกียรติก้อง กล่าว
พร้อมให้แนวรับ 1,300-1,296 จุด และแนวต้าน 1,312 จุด
ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :
- ตลาดหุ้นนิวยอร์คล่าสุด(23 ต.ค.)ดัชนีดาวโจนส์ ปิดที่ 13,102.53 จุด ลดลง 243.36 จุด(-1.82%) ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 1,413.11 จุด ลดลง 20.71 จุด(-1.44%) และดัชนีแนสแด็ก ปิดที่ 2,990.46 จุด ลดลง 26.49 จุด(-0.88%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้านี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ ลดลง 117.84 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ ลดลง 135.96 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ ลดลง 49.34 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ ลดลง 19.65 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ ลดลง 13.65 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ ลดลง 1.43 จุด และดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียเปิดวันนี้ ลดลง 13.30 จุด
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด(22 ต.ค.)ที่ระดับ 1,310.42 จุด เพิ่มขึ้น 2.71 จุด(+0.21%)
- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 1,227.09 ล้านบาทเมื่อ 22 ต.ค.55
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ธ.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุดที่ 86.67 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 1.98 ดอลลาร์หรือ 2.2%
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ล่าสุด(23 ต.ค.)ปิดทำการที่ 6.1 เหรียญฯ/บาร์เรล
- เงินบาทเปิดเช้านี้ 30.76/78 แนวโน้มอ่อนค่าตามภูมิภาค-ยูโร
- ธนาคารกลางสหรัฐ หรือ เฟด มีการประชุมกำหนดนโยบายการเงินในวันที่ 23-24 ต.ค. นี้ ซึ่งจะมีกำหนดออกแถลงการณ์ด้านนโยบายวันที่ 25 ต.ค. แต่บรรดานักวิเคราะห์คาดว่าไม่มีมาตรการใดๆ ออกมา เนื่องจากใกล้เลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ
- กสทช.หอบเอกสารแจง 4 หน่วยงานตรวจสอบความโปร่งใสประมูล 3จี พร้อมตั้งคณะทำงานสอบประเด็นฮั้ว 25 ต.ค. นี้ ดึงเลขาสภาผู้แทนฯ ร่วมเป็นประธาน คาดพิจารณา 15 วัน กำหนดให้ไลเซ่น 3จีเอกชน 17 พ.ย. ด้าน "สมเกียรติ" จี้ กสทช. บีบเอกชนลดค่าเชื่อมโครงข่าย (ไอซี) หลังจากปล่อยให้คิดราคาสูงตัวการทำค่าบริการพุ่ง ชี้ราคาบริการโทรคมต้องถูกเป็นอันดับที่สองในอาเซียน
- นายสาธิต รังคสิริ อธิบดีกรมสรรพากรเปิดเผยว่า กรมสรรพากรเตรียมเสนอนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง พิจารณาถึงการต่ออายุมาตรการลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาในส่วนของกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) ซึ่งปัจจุบันมาตรการดังกล่าวครอบคลุมถึงปี 2559 โดยผู้ซื้อต้องถือครองยาว 5 ปี
- น.ส.จุฬารัตน์ สุธีธร ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) เปิดเผยว่า สบน.มีแผนระดมทุนในปีงบประมาณ 2556 กว่า 1.09 ล้านล้านบาท โดยได้เตรียมศึกษาเรื่องการออกพันธบัตรซีโรคูปองแบบระยะยาว 30-50 ปี
- ธนาคารโลก (เวิลด์แบงก์) เปิดเผยรายงานศักยภาพการแข่งขันทางธุรกิจประจำปี 2556 ซึ่งเป็นการจัดอันดับประเทศที่มีสภาพแวดล้อมเอื้ออำนวยต่อการทำธุรกิจมากที่สุดในโลก 185 ประเทศ พบว่า สิงคโปร์ครองแชมป์เป็นปีที่ 7 ติดต่อกัน ขณะที่ไทยรั้งอันดับ 18 ลดลง 1 อันดับจากเมื่อปีก่อน
- นายจักรพร อุ่นจิตต์ ผู้อำนวยการสถาบันการก่อสร้างแห่งประเทศไทย กระทรวงอุตสาหกรรมเปิดเผยว่า ขณะนี้ผู้ประกอบการก่อสร้างไทยบางรายเริ่มส่งมอบโครงการพัฒนาหมู่บ้านให้กับลูกค้าล่าช้ากว่ากำหนด เนื่องจากประสบปัญหาการขาดแคลนแรงงานในภาคการก่อสร้างไม่ต่ำกว่า 3 แสนคน จากปัจจุบันมีแรงงานอยู่ 2.3-2.6 ล้านคน
- "ทริสเรทติ้ง"เกาะติดธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ไทย แม้ประเมินยากว่าเกิดวิกฤติฟองสบู่หรือไม่ แต่สถานการณ์ปัจจุบันอยู่ในภาวะน่ากังวล พร้อมระบุกำลังซื้อสามารถรองรับคอนโดมิเนียมเกิดใหม่ได้น้อยลง ระบุหากยอดขาย-การรับรู้รายได้ของผู้ประกอบการต่ำกว่าคาดการณ์มาก อาจกระทบอันดับเครดิต
*หุ้นเด่นวันนี้
- BCP(เมย์แบงก์ กิมเอ็ง)"ทยอยสะสม"ราคาเหมาะสม 27 บาท คาดผลประกอบการ 3Q55 จะพลิกกลับเป็นกำไรสุทธิ 687 ล้านบาท จากขาดทุนสุทธิ 385 ล้านบาท ใน 2Q55 เนื่องจาก 3Q55 จะมีการบันทึกกำไรจากสต็อกน้ำมัน เทียบกับ 2Q55 ที่ผลประกอบการถูกกดดันจากผลขาดทุนของสต็อกน้ำมัน ขณะที่กำไร 4Q55 คาดว่าจะโตโดดเด่นสุด qoq เมื่อเทียบกับหุ้นโรงกลั่นในกลุ่ม เนื่องจากหน่วยกลั่นที่ 3 จะเริ่มผลิตอีกครั้งใน ต.ค. รวมทั้งทยอยบันทึกรายได้ค่าประกันความเสียหายจากเหตุเพลิงไหม้จำนวน 700 - 800 ล้านบาท ใน 4Q55 - 1Q56 อย่างต่อเนื่อง และธุรกิจโซลาร์ฟาร์มจะเสริมความมั่นคงในระยะยาว
- QH(เมย์แบงก์ กิมเอ็ง)"ทยอยสะสม"ราคาเหมาะสม 2.48 บาท ราคาหุ้นมีปัจจัยบวกระยะสั้น โดยคาดว่ากำไรสุทธิ 3Q55 จะเติบโตโดดเด่น +288% yoy และ +216% qoq และทำระดับสูงสุดใหม่ที่ 1,069 ล้านบาท เนื่องจากจะมีการบันทึกกำไรพิเศษจากการขายสินทรัพย์เข้าสู่ Property Fund สูงถึง 725 ล้านบาท ขณะที่กำไรปกติ 3Q55 คาดว่าจะเติบโต +25% yoy และ +1.8% qoq เป็น 344 ล้านบาท
- SCC(ฟินันเซีย ไซรัส)"ซื้อ"ราคาเป้าหมายปีหน้า 410 บาท ประกาศผลประกอบการ 3Q12 วันนี้ คาดมีกำไรสุทธิ 6.37 พันล้านบาท +49% Q-Q เพราะกำไรจากสต็อกนาฟมา และธุรกิจซีเมนต์มีกำไรเพิ่มขึ้นจากการเติบโตของภาคก่อสร้าง ชดเชย margin ของธุรกิจปิโตรเคมีที่แคบลงได้ แต่กำไรดังกล่าวคาดลดลง -14% Y-Y เพราะ 3Q11 มีกำไรจาการขาย PTTCH 1.1 พันล้านบาท หากไม่รวมรายการนี้ คาดกำไรทรงตัว Y-Y ทั้งนี้แนวโน้มกำไรปีหน้าเติบโตต่อเนื่อง โดยเฉพาะธุรกิจซิเมนต์และโรงงานเม็ดพลาสติก downstream ที่เดินเครื่องเต็มที่
- AP(ฟินันเซีย ไซรัส)"ซื้อ"ราคาเป้าหมายปีหน้า 10.50 บาท คาดกำไรปกติ 3Q12 -30% Q-Q, -37% Y-Y เป็น 377 ล้านบาท จากยอดโอนที่ลดลงทั้งบ้านแนวราบและคอนโด เพราะการโอนในไตรมาสนี้ส่วนใหญ่เป็นโครงการเดิมที่ต่อเนื่องมาจากไตรมาสก่อนๆ โครงการใหม่ที่เริ่มโอนปลายไตรมาสมีเพียง 1 โครงการคือ The Address Sathorn ส่วนกำไรสุทธิ คาด -26% Q-Q, -29% Y-Y เป็น 427 ล้านบาทเพราะมีกำไรจากการขาย PREB 50 ล้านบาท แนวโน้มกำไรใน 4Q12 จะกลับมาดีขึ้น Q-Q อีกครั้งเพราะมีบ้านแนวราบและคอนโดที่รอโอนประมาณ 6 พันล้านบาท