UACมีแผนตั้งโรงก๊าซชีวภาพจากพืชพลังงานเพิ่มกว่า 10แห่ง,ขยายโครงการเดิม

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday October 24, 2012 14:10 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายกิตติ ชีวะเกตุ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บมจ.ยูนิเวอร์แซล แอดซอร์บเบ้นท์ แอนด์ เคมิคัลส์(UAC) เปิดเผยว่า บริษัทฯ มีการวางแผนก่อสร้างโครงการผลิตก๊าซชีวภาพเพิ่มเติมอีก 10 โครงการในแถบภาคเหนือ โดยใช้วัตถุดิบหลักในการผลิตจากพืชพลังงานอย่างหญ้าเนเปียร์ หรือหญ้าเลี้ยงสัตว์ ที่มีผลการวิจัยออกมาว่าสามารถนำมาผลิตเป็นก๊าซชีวภาพเพื่อใช้งานได้ ซึ่งในประเทศไทยถือว่ามีการปลูกกันอย่างแพร่หลายโดยเฉพาะในแถบภาคเหนือ และภาคอีสาน

สำหรับงบประมาณในการลงทุนทั้ง 10 โครงการ บริษัทฯจะการลงทุนเองทั้งหมด ด้วยงบลงทุนโครงการละประมาณ 100 ล้านบาท แต่ทั้งนี้บริษัทฯ ได้รับแจ้งจากกระทรวงพลังงานว่าบริษัทฯ จะได้รับเงินสนับสนุนโครงการละ 10 ล้านบาทจำนวน 7 โครงการ และอีก 3 โครงการ อยู่ในระหว่างการพิจารณา นอกจากนี้ ยังมีโครงการร่วมทุนในลักษณะคล้ายกันอีก 6 โครงการ ด้วยการลงทุนร่วมกับเจ้าของพื้นที่ ซึ่งอยู่ระหว่างการหารือเพื่อดำเนินการต่อไป

ส่วนโครงการแรกที่ได้ดำเนินการไปแล้วนั้น ขณะนี้บริษัทฯได้เดินเครื่องผลิตก๊าซชีวภาพจากฟาร์มสุกรเชิงพาณิชย์ได้เต็มกำลังการผลิตที่ 6-7 ตัน/วัน หรือ 2,000 ตัน/ปีเพื่อขายให้กับ บมจ. ปตท. (PTT) ซึ่งจะรับรู้รายได้ในไตรมาส 4 ประมาณ 6-10 ล้านบาท โดยโครงการนี้ถือเป็นโครงการต้นแบบให้กับแผนการดำเนินงานของบริษัทฯในโครงการต่อไป

โครงการดังกล่าวนอกจากจะสามารถผลิตก๊าซชีวภาพอัดเพื่อการคมนาคมแล้ว ยังถือเป็นการช่วยขจัดของเสียที่เกิดจากฟาร์มสุกร รวมถึงเป็นการบำบัดน้ำเสียเพื่อนำกลับมาใช้งานได้อีกครั้ง ขณะที่กากของเสียที่เหลือจากการผลิตสามารถนำมาเป็นปุ๋ยอินทรีย์เพื่อจำหน่ายในอนาคตได้อีกทางหนึ่ง โดยบริษัทฯอยู่ระหว่างเตรียมปรับพื้นที่เพื่อก่อสร้างโครงการผลิตก๊าซชีวภาพต่อขยายในโครงการต้นแบบโครงการแรก เนื่องจากฟาร์มสุกรยังมีวัตถุดิบอีกจำนวนมากที่สามารถนำมาผลิตก๊าซเพิ่มเติม

"เม็ดเงินที่ได้จากการเพิ่มทุน บริษัทฯจะนำไปขยายการดำเนินธุรกิจในโครงการพลังงานทางเลือก อาทิ โครงการผลิตก๊าซชีวภาพจากฟาร์มสุกร (CBG) อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ โครงการผลิตจากพืชพลังงาน จากหญ้าเนเปียร์" นายกิตติ กล่าว

จากแผนการดำเนินงานของบริษัทฯที่กล่าวมาจะเห็นได้ว่า บริษัทฯมีการวางแผนเพื่อหารายได้เพิ่มเติมและต่อยอดด้วยธุรกิจด้านพลังงานทดแทนและพลังงานทางเลือก นอกเหนือจากธุรกิจเทรดดิ้งปิโตรเคมีที่ยังถือเป็นธุรกิจหลัก รวมถึงบริษัท บางจากไบโอฟลูเอล จำกัด บริษัทร่วมทุนเพื่อผลิตไบโอดีเซลเพื่อจำหน่าย

นายกิตติ มองว่าพลังงานทดแทนยังมีโอกาสเติบโต เนื่องจากยังมีวัตถุดิบที่จะนำมาวิจัยเพื่อพัฒนาเป็นพลังงานได้อีกมาก ซึ่งรัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเองได้มีการสนับสนุนในการค้นคว้าวิจัยเพื่อหาพลังงานทดแทนอย่างต่อเนื่อง หลังจากแหล่งพลังงานสำรองในประเทศ เริ่มลดลงอย่างเห็นได้ชัด โดย UAC ถือเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาพลังงานทดแทนมาโดยตลอด ดังนั้น จึงมีความเป็นไปได้ที่บริษัทฯจะมีรายได้ประมาณ 3,000 ล้านบาทในอีก 3 ปีข้างหน้าตามแผนการที่วางไว้


แท็ก ภาคเหนือ   (UAC)  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ