นายจรัมพร โชติกเสถียร กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) กล่าวว่า แนวโน้มไตรมาส 4/55 ตลาดหุ้นไทยยังมีความน่าสนใจต่อเนื่อง คาดว่าปริมาณการซื้อขายเฉลี่ย(วอลุ่ม)ทั้งปีนี้น่าจะเป็นไปตามเป้าหมายที่ 3.1-3.2 หมื่นล้านบาท/วัน จากช่วง 9 เดือนแรกที่มีปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยที่ 3.06 หมื่นล้านบาท/วัน โดยผลประกอบการไตรมาส 3/55 ของกลุ่มธนาคารพาณิชย์ยังสนับสนุนการซื้อขายที่ดีอยู่ แต่ต้องรอดูการประกาศผลประกอบการของกลุ่มอื่นๆ แต่คาดว่ายังมีกำไรดีต่อเนื่อง ซึ่งเป็นปัจจัยพื้นฐานรองรับได้ดี อีกทั้งอัตราผลตอบแทนเงินปันผลของหุ้นไทยยังอยู่ระดับสูงที่ 3.45%
นอกจากนี้การจัดงานไทยแลนด์โฟกัสที่ผ่านมา มีนักลงทุน กองทุน ที่เข้ามาฟังสูงสุดเป็นประวัติการณ์ เป็นการยืนยันในภาพรวมระยะสั้น ประกอบกับผลกำไรของบจ.ออกมาดี ส่วนระยะกลาง-ยาวเชื่อว่านักลงทุนทั่วโลกยังให้ความสำคัญกับตลาดหุ้นไทย หากเทียบการเติบโตกับภูมิภาค เนื่องจากสถานะของไทยที่ดี
อย่างไรก็ตาม มองว่าปี 56 วอลุ่มเทรดไม่น่าเพิ่มจากปีนี้ เพราะแนวโน้มการลงทุนโลกลดลง และยังไม่เห็นแนวโน้มตลาดโลกดีขึ้น โดยช่วง 9 เดือนที่ผานมาวอลุ่มเทรดในตลาดหุ้นต่างประเทศหลายแห่งลดลงราว 15-20% แต่ตลาดหุ้นไทยยังมีวอลุ่มเพิ่มสูงขึ้น สามารถทรงตัวในระดับดีมาก ขณะที่ ตลท.จะมุ่งเน้นที่การขยายฐานนักลงทุนต่อเนื่อง จุดขายของตลาดหุ้นไทยยังเป็นเรื่องพื้นฐานเศรษฐกิจดี บจ.กำไรดี PE ไม่สูง 14 เท่า อัตราผลตอบแทนที่ 3.45% สูงสุดในเอเชีย ตลาดยังมีสภาพคล่องสูงมาก
"ไตรมาส 4 ตลาดน่าจะมีช่วงผันผวนสูงบ้างตามข่าวดีข่าวร้าย แต่ทุกครั้งที่สถานการณ์คลี่คลายเม็ดเงินต่างชาติยังต้องไหลเข้าไทย ตราบใดที่บจ.ไทยมีความสามารถฝ่าฟันอุปสรรคหลายๆอย่างได้ก็ยังน่าสนใจอยู่ จะเห็นจาก 9 เดือนมีเงินมาซื้อขายในตลาดหุ้นไทยสูงสุด ไม่ตกเหมือนตลาดอื่น แสดงว่าเรายังน่าสนใจระดับต้นๆ เรามี story ดีอยู่ และ Index ก็ปรับขึ้นสูงสุดในเอเชียด้วย"นายจรัมพร กล่าว
นายจรัมพร กล่าวว่า จากนี้ถึงสิ้นปีคาดว่าจะมีหุ้น IPO เข้าทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ทันปีนี้อีกราว 10 บริษัท จากที่ยื่นไฟลิ่งแล้ว 12 บริษัท มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด(มาร์เก็ตแคป)รวมกว่า 2 หมื่นล้านบาท จะทำให้มาร์เก็ตแคปทั้งปีอยู่ที่ 1 แสนล้านบาท จาก 9 เดือนอยู่ที่ 7 หมื่นล้านบาท