KBANK-BBL-SCB-LHBANK จับมือ 4 ธ.ตปท.ปล่อยกู้กลุ่มกัลฟ์สร้างโรงไฟฟ้า 3.9 หมื่นลบ.

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday October 25, 2012 13:12 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สถาบันการเงินในและต่างประเทศ 8 แห่ง ประกอบด้วยธนาคารไทย 4 แห่ง ได้แก่ ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) ธนาคารกรุงเทพ (BBL) ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) ธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ (LHBANK) และ สถาบันการเงินต่างประเทศ 4 แห่งคือ ธนาคารเพื่อความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งญี่ปุ่น (JBIC) ธนาคารเพื่อการพัฒนาเอเชีย (ADB) ธนาคารแห่งโตเกียว-มิตซูบิชิ ยูเอฟเจ จำกัด (BTMU) และธนาคารซูมิโตโม มิตซุย แบงกิ้ง คอร์ปอเรชั่น (SMBC) ร่วมปล่อยกู้ทั้งเงินสกุลบาทและเงินเหรียญสหรัฐฯ รวม 39,000 ล้านบาท ให้กลุ่มกัลฟ์ เจพี ผู้ผลิตไฟฟ้าเอกชนรายใหญ่ของประเทศไทย สร้างโรงไฟฟ้าพลังความร้อน ที่อำเภออุทัย จังหวัดอยุธยา คาดจำหน่ายไฟฟ้าได้ในปี 2558

โครงการโรงไฟฟ้าอุทัย เป็นโรงไฟฟ้าอิสระขนาดใหญ่ หรือ Independent Power Producer (IPP) กำลังการผลิตรวม 1,600 เมกะวัตต์ ตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมโรจนะ อำเภออุทัย จังหวัดอยุธยา ใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิงหลักในการผลิตไฟฟ้า และจำหน่ายไฟฟ้าทั้งหมดให้กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.)ตามสัญญาซื้อขายไฟฟ้า(PPA) ระยะยาว 25 ปี ทั้งนี้ คาดว่าโรงไฟฟ้าอุทัยจะสามารถดำเนินการเชิงพาณิชย์ได้ในปี 2558

ตามแผนพัฒนากำลังการผลิตไฟฟ้าของประเทศไทย (Power Development Plan) ล่าสุด มีการประมาณการภาพรวมความต้องการของพลังงานไฟฟ้าเพื่อตอบสนองต่อการเติบโตของเศรษฐกิจของไทย พบว่าจากกำลังการผลิตไฟฟ้าในปัจจุบันที่ประมาณ 34,000 เมกกะวัตต์ จะต้องปรับเพิ่มขึ้นเป็นกว่า 56,000 เมกกะวัตต์ ในอีก 10 ปีข้างหน้า เพื่อให้เพียงพอกับความต้องการใช้พลังงานที่เพิ่มขึ้น หรือหมายถึงความจำเป็นที่จะต้องเพิ่มอุปทานของพลังงานไฟฟ้าเข้าสู่ระบบสุทธิที่ 22,000 เมกกะวัตต์ ซึ่งจะมาจากการลงทุนทั้งของภาครัฐโดย กฟผ.และภาคเอกชน

อนึ่ง บริษัท กัลฟ์ เจพี ยูที จำกัด เป็นบริษัทย่อยของบริษัท กัลฟ์ เจพี จำกัด จัดตั้งขึ้นเพื่อดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าอิสระขนาดใหญ่ 1,600 เมกะวัตต์ ประเภทพลังความร้อน ตามแผนพัฒนากำลังการผลิตไฟฟ้าของประเทศไทยของกระทรวงพลังงาน โดยโรงไฟฟ้าอุทัยถือเป็นโรงไฟฟ้า IPP 1 ใน 2 แห่งของกลุ่มกัลฟ์ เจพี ทั้งนี้ กลุ่มกัลฟ์ถือเป็นหนึ่งในกลุ่มบริษัทที่มีศักยภาพในการเติบโตสูงในอุตสาหกรรมโรงไฟฟ้าของประเทศ มีโรงไฟฟ้าในกลุ่มที่อยู่ระหว่างการพัฒนาจำนวนรวมทั้งสิ้น 9 แห่ง กำลังการผลิตรวม 3,990 เมกะวัตต์


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ