บมจ.เจมาร์ท(JMART)คาดว่าผลประกอบการในปี 56 กำไรสุทธิจะเติบโตอย่างต่ำ 30% ต่อเนื่องจากปี 55 ที่เติบโตได้กว่า 50% ขณะที่ในแง่รายได้คาดว่าจะเติบโต 20-25% แต่หากบริการ 3G เปิดได้ตรามกำหนดภายในต้นปีหน้า ก็จะทำให้รายได้ของบริษัทเติบโตได้มากกว่าที่คาดไว้
นายอดิศักดิ์ สุขุมวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร JMART เปิดเผยว่า ปี 56 ตั้งเป้ารายได้โต 20-25% แต่อาจจะมากกว่านั้นถ้า 3G มีผลเต็มที่ซึ่งขึ้นอยู่กับโอเปอร์เรเตอร์ หากเมื่อได้ใบอนุญาตไปแล้วและลงทุนขยายโครงข่ายเพื่อเปิดบริการได้ภายใน 4 เดือนหรือราวเดือน ก.พ.56 ในส่วนของกำไรสุทธิคาดว่าจะเพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 30% จากปี 55 ที่คาดว่าจะโตมากกว่า 50%จากปี 54 ที่มีกำไร 171 ล้านบาท ซึ่งสาเหตุที่ปีหน้ากำไรเติบโตน้อยกว่าปีนี้ เพราะฐานใหญ่ขึ้นมาก ขณะที่รายได้ปีนี้มั่นใจว่าจะได้ตามเป้าที่จะโต 25%
สำหรับผลประกอบการไตรมาส 3/55 ที่กำลังจะปิดงบการเงินนั้น ปรับตัวดีขึ้นทั้งเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และช่วงไตรมาสก่อนหน้า จากกระแสความนิยมสมาร์ทโฟน ธุรกิจของบริษัทลูก คือ บมจ.เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส(JMT) อีกทั้งคาดว่าไตรมาส 4/55 ผลดำเนินงานจะทำสถิติสูงสุด ผลักดันให้รายได้ทั้งปีเติบโตได้ตามเป้าหมายที่ราว 25%
"คาดว่าไตรมาส 4/55 หลังจากที่ JMT เข้าจดทะเบียนในตลาดแล้วน่าจะทำให้มีแรงส่งมากขึ้น และไตรมาส 4 เป็นช่วงเทศกาลของทุกปีจะเป็นไตรมาสที่มีรายได้ดีที่สุด ประกอบกับปีนี้มี new product ทั้งไอโฟน 5 และสินค้าอีกหลายตัว ทั้งซัมซุง โซนี่อิริคซัน HTC ทำให้เชื่อว่าที่เคยตั้งเป้ารายได้ปีนี้จะเพิ่มขึ้น 25% ก็น่าจะทำได้ และกำไรจะโตมากกว่า 50% จากปีก่อนก็น่าจะยังทำได้อยู่"นายอดิศักดิ์ กล่าว
บริษัทมีแผนใช้งบลงทุนเปิดร้านสาขาใหม่ในปีนี้กว่า 100 ล้านบาท คาดว่าสิ้นปีจะเปิดให้ครบ 250 สาขา จากปัจจุบันอยู่ที่ 217 สาขา โดยช่วงที่ผ่านมาของปีนี้เปิดไปแล้ว 12-13 สาขาเน้นในห้างสรรพสินค้าที่เปิดใหม่ ทั้งเซ็นทรัล เดอะมอลล์ และบิ๊กซี อีกทั้งยังมีการจัดกิจกรรมทางการตลาดเพื่อดึงดูดลูกค้า โดยใช้งบลงทุน 1-10 ล้านบาทต่อสาขา
“เชื่อว่าถ้า 3G rollout แล้วจะสนุกมาก ยอดขาย handset ในส่วนของสมาร์ทโฟนจะโตขึ้น 100% ผู้ที่ได้ประโยชน์มากสุดก็คือผู้ขาย"นายอดิศักดิ์ กล่าว