APCO คาดใช้ 200 ลบ.ร่วมทุนเพื่อแตกไลน์ธุรกิจ,คาดรายได้ปี 55 โตแค่ 10%

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday October 25, 2012 16:54 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายพิเชษฐ์ วิริยะจิตรา กรรมการผู้จัดการ บมจ.เอเชียน ไฟย์โตซูติคอลส์(APCO)เปิดเผยว่า บริษัทก็มีแผนเพิ่มช่องทางการจัดจำหน่ายสินค้าในประเทศอื่นอย่างต่อเนื่องในอนาคต และคาดว่าจะลงทุนไปถือหุ้นในบริษัทที่ประกอบธุรกิจที่ใกล้เคียงกัน เพื่อแตกไลน์ธุรกิจ และคาดว่าจะลงทุนทั้งหมด 2 โครงการ โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจา คาดว่าจะใช้เงินลงทุนโครงการละ 100 ล้านบาท และจะมีความชัดเจนในปี 56

แนวโน้มผลประกอบการงวด 9 เดือนปี 55 มีโอกาสเติบโตกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 213.2 ล้านบาท คาดทั้งปีรายได้ทั้งปีเติบโต 10% ขณะที่คาดยอดขายผลิตภัณฑ์ใหม่คือครีมและเซรั่มยกกระชับ B-TOX Formula จะมียอดขาย 1 หมื่นชุด ซึ่งเตรียมเปิดตัวอย่างเป็นทางการต้น พ.ย.55 ขณะที่ผลิตภัณฑ์สุขภาพในกลุ่ม Operation BIM มีการเติบโตสูงขึ้น คาดยอดขายโตตามเป้า 30%

สำหรับการขายผลิตภัณฑ์สุขภาพในต่างประเทศ บริษัทแม่ได้ทำข้อตกลงร่วมกับพันธมิตร โดยร่วมเปิดบริษัท TH 17 เพื่อทำการตลาดและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ในสหรัฐและอิตาลี ขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการขอขึ้นทะเบียนผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร และเจรจากับผู้สนใจในจีน ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ ซึ่งการจำหน่ายสินค้าแต่ละประเทศที่แตกต่างกันตามความต้องการของตลาด และคาดว่าจะเริ่มรับรู้รายได้จากการขายต่างประเทศในไตรมาส 4/55

นายพิเชษฐ์ บริษัทคาดจะสามารถเซ็นสัญญาเป็นตัวแทนในการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของบริษัทไปจำหน่ายในประเทศอิตาลี และ สหรัฐฯ ได้ทันภายในปีนี้ ซึ่งอยู่ระหว่างการเจรจา

ปัจจุบัน บริษัทมีสมาชิก 93,790 ราย และเตรียมขยายศูนย์สุขและสวย เพื่อกระจายสินค้าทั่วประเทศให้มากขึ้นจากปัจจุบัน 150 แห่ง เพิ่มเป็น 250 แห่งภายในปี 56 สัดส่วนรายได้ของบริษัทมาจากธุรกิจจำหน่ายอาหารเสริมและผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับยารักษาโรค 60% ส่วนอีก 40% จะมาจากการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ความสวยความงาม ซึ้งเป็นการจัดจำหน่ายแบบธุรกิจเครือข่าย

นายพิเชษฐ์ กล่าวว่า ผลการดำเนินงานในไตรมาส 4/55 คาดว่าจะออกมาดีกว่าทั้ง 3 ไตรมาสที่ผ่านมารวมกัน เนื่องจากบริษัทได้มีการขยายตลาดอย่างชัดเจน รวมทั้งตลาดต่างประเทศก็เติบโตในทิศทางที่ดีขึ้น โดยปัจจุบันบริษัทมีออร์เดอร์จากต่างประเทศทั้งตะวันออกกลาง มาเลเซีย และอินโดนีเซีย แม้ว่าขณะนี้จะเป็นออร์เดอร์ที่ไม่มาก แต่มีอัตรากำไร(มาร์จิน)ดีกว่าการขายในประเทศ โดยมีมาร์จินเกิน 50%

"จากผลประกอบการที่ผ่านมาทำให้คาดว่ากำไรสุทธิปีนี้จะเติบโตไม่ต่ำกว่า 20% จากปีก่อนที่บริษัทมีกำไรอยู่ที่ 50 ล้านบาท มาอยู่ที่ 60-65 ล้านบาท"นายพิเชษฐ์

ส่วนยอดขายปีนี้คาดว่าคงเติบโตได้เพียง 10% พลาดเป้าหมายเดิมที่คาดว่าจะเติบโต 30% จากปีก่อน เนื่องจากยอดขายในต่างประเทศไม่เป็นไปตามที่คาดไว้ แต่ในปี 56 บริษัทตั้งเป้าหมายรายได้และกำไรเติบโตไม่ต่ำกว่า 20% ตามการขยายตัวของธุรกิจ และบริษัทมีผลิตภัณฑ์ใหม่เข้ามาจำหน่าย รวมถึงมีการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ออกมาจำหน่ายอย่างต่อเนื่อง


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ