นายดามพ์ สุคนธทรัพย์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มกิจการองค์กร บมจ.โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น (DTAC) ให้ความเห็นกรณีสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและ ปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) รับเรื่องการพิจารณาไต่สวนการประมูล 3จี ว่า DTAC มีความมั่นใจเต็มที่ว่าได้ทำถูกต้องตามกฎกติกาของ กสทช. ทุกประการ ซึ่งหาก ป.ป.ช.จะให้ DTAC เข้าชี้แจงในประเด็นใดก็พร้อมที่จะให้ความร่วมมือ
ทั้งนี้ เบื้องต้นเห็นว่าคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ไม่น่ามีความผิดในการออกกฎการประมูลแต่อย่างใด โดยเฉพาะประเด็นการปรับอัตราเพดานถือครองคลื่นขั้นต่ำจาก 20 MHz ให้เหลือ 15 MHz ก็เป็นเพราะต้องการเอื้อให้ผู้ประกอบการรายเล็กได้มีโอกาสเข้าร่วมประมูล
"ในช่วงเวลาก่อนการประมูลใบอนุญาตก็ไม่มีใครทราบว่าจะมีผู้เข้าร่วมประมูลเพียง 3 ราย รวมทั้งในช่วงเวลาก่อน การประมูลฝั่งผู้ประกอบการเองก็ไม่สามารถพูดคุยกันได้ตามกฎของ กสทช. แม้แต่การคุยกับ กสทช. เองก็เกิดขึ้นน้อยมาก จะมีก็เพียงแต่การซักถามเรื่องกฎการประมูลเท่านั้น" นายดามพ์ กล่าว
นอกจากนี้ ในส่วนของกรณีที่หลายฝ่ายตั้งข้อสังเกตต่อพฤติกรรมการเสนอราคาของ DTAC ในการประมูลที่ไม่มีการเสนอราคาเพิ่มเติมจากราคาตั้งต้นนั้น ยืนยันว่าเป็นกลยุทธ์การทำธุรกิจของ DTAC ที่จะพิจารณาองค์ประกอบต่างๆสำหรับการลงทุนกับคลื่น 2.1 GHz เนื่องจากปัจจุบัน DTAC ได้ถือครองคลื่นภายใต้สัญญาสัมปทานกับบมจ.กสท โทรคมนาคม อยู่แล้วถึง 2 คลื่น ได้แก่คลื่นความถี่ 850 MHz กับ 1800 MHz ซึ่งคลื่น 1800 MHz ยังเป็นคลื่นที่จะมีการนำกลับมาแปลงเป็น 4จี และประมูลใหม่ในอนาคตอันใกล้นี้อีกด้วย
อย่างไรก็ตาม เห็นว่าการตรวจสอบจากหน่วยงานต่างๆ จะทำให้การออกใบอนุญาต 3 จี จะต้องล่าช้าออกไป และจะมีผลกระทบต่อผู้ประกอบการในส่วนที่จะต้องแบกรับอัตราดอกเบี้ยจากเงินที่กู้มาลงทุน และประชาชนก็ถือว่ามีความเสียหายเป็นอย่างมากด้วย เพราะประเทศไทยรอ 3จี มาเป็นเวลานานแล้ว และปัจจุบันประเทศเพื่อนบ้านก้าวไปไกลถึง 4จีแล้ว ฉะนั้น เมื่อยังไม่เกิดความชัดเจนในการตรวจสอบอาจต้องใช้เวลานาน
ทั้งนี้ DTAC ในฐานะผู้มีสิทธิได้รับใบอนุญาต จึงอยากให้ กสทช. ออกใบอนุญาตให้ก่อน และหากพบว่าไม่ถูกต้องจึงค่อยริบใบอนุญาต แต่เบื้องต้นมั่นใจทุกฝ่ายทำถูกต้องแล้ว และที่ผ่านมา กสทช. ได้กระทำตามขั้นตอนในการออกประกาศต่างๆ ภายใต้กรอบเวลาที่ได้เคยเปิดเผยไว้ทั้งหมด ซึ่งเป็นเรื่องดีที่ผู้ประกอบการสามารถวางแผนในการลงทุนเรื่องต่างๆได้ ซึ่งระยะเวลาการออกใบอนุญาตก็เช่นกัน อยากให้ กสทช. ได้แสดงให้เห็นถึงการให้ความสำคัญกับการ รักษาเวลาตรงจุดนี้ เพื่อที่จะได้เป็นตัวอย่างที่ดีให้หน่วยงานอื่นในการให้ความสำคัญในเรื่องการรักษาเวลาด้วยเช่นกัน ในวันนี้ เวลาประมาณ 9.30 น. นายดามพ์ ซึ่งเป็นตัวแทนผู้บริหารบริษัท ดีแทค เน็ตเวิร์ค จำกัด ในเครือ DTAC เดินทางมาที่ สำนักงาน กสทช. เพื่อนำแคชเชียร์เช็ค จำนวน 5,872.50 ล้านบาท จากธนาคารกรุงเทพ มาชำระค่าใบอนุญาตงวดแรก พร้อมด้วยหนังสือรับรองจากธนาคารกรุงเทพ โดย นาง วิจิตรา พลับประสิทธิ์ ผู้อำนวยการกลุ่มงานการคลัง เป็นผู้รับมอบแคชเชียร์เช็ค และหนังสือรับรองจากธนาคารไว้เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป
ทั้งนี้ การการชำระเงินครั้งนี้เป็นไปตามกำหนดของ กสทช. ที่ระบุไว้ว่า ต้องชำระเงินงวดแรก 50% ภายใน 90 วัน ส่วนงวดที่ 2 และ งวดที่ 3 ให้ชำระในปีที่ 2 และปีที่ 3 และ 25% ตามลำดับ