หุ้น TTA เปิดร่วง 7.69% มาอยู่ที่ 16.80 บาท ลดลง 1.40 บาท เมื่อเวลา 9.57 น.
วานนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการ บมจ.โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์(TTA)มีมติเพิ่มทุนเพื่อจัดสรรหุ้นสามัญให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมในสัดส่วน 1 หุ้นสามัญเดิมต่อ 1 หุ้นสามัญใหม่ ในราคาเสนอขายหุ้นละ 14 บาท คิดเป็นจำนวนหุ้นเพิ่มทุน 708 ล้านหุ้น รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 9.9 พันล้านบาท ระยะเวลาจองซื้อ 15-21 ม.ค.56
วัตถุประสงค์ของการเพิ่มทุนครั้งนี้ เพื่อนำเงินมาลงทุนซื้อเรือบรรทุกสินค้าแห้งเทกองและโอกาสในการลงทุนอื่นในจังหวะเวลาที่เหมาะสม ซึ่งจะทำให้บริษัทมีต้นทุนและค่าใช้จ่ายที่ต่ำกว่าผู้ประกอบ การรายอื่น ซึ่งจะทำให้ได้เปรียบในการแข่งขันอย่างยั่งยืนเมื่อเศรษฐกิจโลกฟื้นตัวอีกครั้ง
บทวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เอเชีย พลัส(ASP) ระบุว่า การเพิ่มทุนดังกล่าวเป็นการรับรองการฟื้นตัวของธุรกิจในระยะยาว แต่ยังไม่เห็นผลในระยะสั้น และมูลค่าทางบัญชีถูกปรับลด 28% จึงปรับลดคำแนะนำจาก“ถือ"เป็น“ขาย"หุ้น TTA
ทั้งนี้ TTA ได้ขายเรือเทกองเก่าที่มีอายุงานมาก และต้องจ่ายค่าบำรุงรักษาสูงเป็นพิเศษออกไปจำนวนมาก ส่งผลให้ปัจจุบันมีเรือเทกองเพียง 15 ลำจากในอดีตที่เคยมีถึง 45 ลำ ขณะที่ในปัจจุบันซึ่งเป็นช่วงที่ธุรกิจเดินเทกองเผชิญภาวะธุรกิจซบเซา จากซัพพลายเรือเทกองที่เพิ่มขึ้นจำนวนมากทุกปี ตั้งแต่ปี 2553 เป็นต้นไป และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นมากต่อเนื่องถึงปีหน้า เนื่องจากซัพพลายเรือใหม่ที่มีการสั่งต่อในช่วงธุรกิจเฟื่องฟูมีกำหนดการรับมอบเรือในช่วงดังกล่าว จึงเป็นโอกาสให้ผู้ประกอบการที่ยังอยู่รอดได้ สามารถซื้อเรือเก่ามือสองอายุงานน้อยในราคาต่ำได้ เพื่อรองรับการฟื้นตัวของธุรกิจเดินเทกองที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในระยะ 1-2 ปีข้างหน้า
อย่างไรก็ตาม ด้วยฐานะการเงินปัจจุบันที่ยังไม่มีความพร้อมที่จะซื้อเรือ คือมีหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยราว 1.5 หมื่นล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนราว 0.7 เท่าของส่วนของผู้ถือหุ้น แม้จะยังไม่ถึง 1 เท่า แต่จัดว่าค่อนข้างสูงสำหรับ TTA ที่มีทั้งธุรกิจเดินเรือเทกอง และมีการกระจายการลงทุนในธุรกิจอื่น ๆ
ดังนั้น การเพิ่มทุนดังกล่าวจึงถือเป็นผลดีต่อ TTA ในการเตรียมพร้อมรองรับการฟื้นตัวของธุรกิจเดินเรือเทกองในระยะยาว แต่ทั้งนี้เชื่อว่ายังไม่สามารถผลตอบแทนจากการลงทุนในระยะเวลาอันใกล้นี้ เนื่องจากธุรกิจยังไม่เห็นสัญญาณการฟื้นตัวอย่างชัดเจน โดยยังมีแรงกดดันจากภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว และซัพพลายเรือที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นมากอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนั้น ผลจากการเพิ่มทุน คาดว่าจะทำให้มูลค่าทางบัญชีต่อหุ้นของ TTA ในปี 56 ลดลง 28% จาก 31.4 บาท เหลือ 21.70 บาท อีกทั้งยังไม่สามารถเห็นผลตอบแทนจากการลงทุนในระยะสั้น ส่งผลให้ฝ่ายวิจัยประเมินมลค่าพื้นฐานหุ้นปี 2556 อิง PBV ที่ 0.7 เท่า แทนเดิมที่ 0.6 เท่า จากศักยภาพในแข่งขันที่มีแนวโน้มสูงขึ้น ได้ Fair Value ที่ 16.00 บาท ซึ่งต่ำกว่าราคาปัจจุบัน