บริษัทมีแผนลงทุนขยายการผลิตของโรงงานเดิมและตั้งโรงงานใหม่ทั้งใน กทม.และปริมณฑล 3 แห่ง และภูมิภาค 10 แห่ง ใช้งบลงทุนรวม 2 หมื่นล้านบาท เพื่อเพิ่มความสะดวกในการจัดส่งสินค้าและทำตลาด ลดต้นทุนด้านขนส่ง และเป็นการรองรับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน(AEC)ในปี 58
ทั้งนี้ ภายในปี 56 บริษัทจะมีการลงทุนขยายฐานการผลิตและกระจายสินค้า 5 พันล้านบาทจากการขยายพื้นที่โรงงานที่ลาดกระบังและลาดหลุมแก้ว และตั้งโรงงานแห่งใหม่ที่ชลบุรี คาดแล้วเสร็จและผลิตได้ไตรมาส 1/56 เพื่อขยายตลาดในภาคตะวันออก นอกจากนั้น บริษัทยังเตรียมเปิดศูนย์นวัตกรรมธุรกิจอาหารใน จ.ชลบุรี เพื่อแสดงนวัตกรรมด้านต่าง ๆ ของซีพีแรม ทั้งแบบจำลองธุรกิจและเทคโนโลยี กระบวนการ และผลิตภัณฑ์ พร้อมทั้งในการก้าวสู่ปี 25 บริษัทได้เปลี่ยนโลโก้ใหม่เพื่อปรับภาพลักษณ์ความเป็นสากลมากขึ้น
นายวิเศษ กล่าวอีกว่า ปัจจุบัน บริษัทมีสัดส่วนการส่งออกที่ 15% ของยอดขายรวม คาดว่าภายใน 5 ปี จะเพิ่มเป็นอย่างน้อย 20% โดยตลาดส่งออกเดิ ทั้งญี่ปุ่น ยุโปร อเมริกาเหนือจะเริ่มค่อยๆฟื้นตัว ขณะเดียวกันได้เล็งเห็นโอกาสในการขยายตลาดส่งออกใหม่ ทั้งรัสเซีย จีน และประเทศในกลุ่มประชาคมอาเซียน (AEC) ส่วนแอฟริกาใต้จะขยายตลาดในช่วงต่อไป
นอกจากนี้บริษัทยังเล็งเห็นการขยายธุรกิจใหม่ ประกอบด้วย Central Kitchen จะเป็นศูนย์ในการจัดเตรียมสินค้าในแต่ละมื้อ โดยอาศัยความรวดเร็วในการจัดส่ง เช่นการจัดส่งสินค้าได้ภายใน 3 ชั่วโมง และการจัดอาหารในแต่ละมื้ออาจจะมีความแตกต่างกันในแต่ละภูมิภาคด้วย นอกจากนี้ยังมี Food Service เป็นจุดขายสินค้า โดยจะเปิดร้านขายสินค้าตามอาคารสำนักงาน เพื่อที่จะได้เรียนรู้ความต้องการของลูกค้าได้มากขึ้น
สำหรับการขยายกำลังการผลิตภายใน 5 ปี จะทำให้กำลังการผลิตเพิ่มอีก 1 เท่า ตัว จากปัจจุบันมีกำลังการผลิต ติ่มซำที่ 1.8 ล้านชิ้น/วัน อาหากล่องที่ 2.8 แสนกล่อง/วัน และเบเกอรี่ ที่ 1.4 ล้านชิ้น/วัน ซึ่งจะเป็นส่วนผลักดันยอดขายให้เพิ่มขึ้นเป็น 2 หมื่นล้านบาทในปี 60