ดัชนี Stoxx Europe 600 พุ่งขึ้น 1.3% แตะที่ 273.70 จุด ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นแข็งแกร่งสุดนับตั้งแต่วันที่ 16 ต.ค.เป็นต้นมา
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 3,475.40 จุด เพิ่มขึ้น 46.13 จุด ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 3,475.40 จุด เพิ่มขึ้น 46.13 จุด ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 5,861.92 จุด เพิ่มขึ้น 79.22 จุด
ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นยุโรปเป็นไปอย่างคึกคัก ขานรับข้อมูลด้านแรงงานที่สดใสของสหรัฐ โดย ADP Employer Services เปิดเผยว่า ภาคเอกชนทั่วสหรัฐมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 158,000 ตำแหน่งในเดือนต.ค. ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นมากสุดในรอบ 8 เดือน หรือตั้งแต่เดือนก.พ. และมากกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 131,000-135,000 ตำแหน่งโดยประมาณ
ขณะที่กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 27 ต.ค. ลดลง 9,000 ราย มาอยู่ที่ 363,000 ราย ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 3 สัปดาห์ สะท้อนว่าตลาดแรงงานเริ่มปรับตัวดีขึ้นอย่างมีเสถียรภาพอันเนื่องมาจากอุปสงค์ที่แข็งแกร่ง
นอกจากนี้ ตลาดหุ้นยุโรปยังพุ่งขึ้นหลังจากสหพันธ์พลาธิการและการจัดซื้อของจีน (CFLP) รายงานว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเดือนต.ค.ของจีนเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 50.2 จากระดับ 49.8 ในเดือนก.ย. การที่ดัชนี PMI จีนเคลื่อนไหวอยู่เหนือระดับ 50 ซึ่งบ่งชี้ถึงการขยายตัวของภาคการผลิตนั้น แสดงให้เห็นว่าเศรษฐกิจของจีนมีแนวโน้มฟื้นตัวขึ้น หลังจากที่ชะลอตัวลงก่อนหน้านี้
หุ้นบริติช สกาย บรอดคาสติ้ง (BSkyB) พุ่งขึ้น 7.1% หลังจากบริษัทเปิดเผยกำไรจากการดำเนินงานในไตรมาสแรกเพิ่มขึ้นเกินคาด
หุ้นธนาคารลอยด์ แบงกิ้ง กรุ๊ป ทะยานขึ้น 8.3%
ส่วนหุ้นสวอช กรุ๊ป ซึ่งเป็นผู้ผลิตนาฬิการายใหญ่ระดับโลก พุ่งขึ้น 4.8% หุ้นคริสเตียน ดิออร์ ดีดตัวขึ้น 3.3% หุ้นหลุยส์ วิตตอง พุ่งขึ้น 2.6%
นักลงทุนจับตาดูหลายประเทศในยุโรปจะเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเดือนต.ค. รวมถึง อิตาลี ฝรั่งเศส เยอรมนี และกลุ่มประเทศอียู