สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย (ThaiBMA) สรุปภาวะตลาดตราสารหนี้ไทยเมื่อวานนี้ (1 พ.ย.) มีมูลค่าการซื้อขายรวม 62,204 ล้านบาท โดยประเภทของตราสารที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงที่สุด คือ พันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย โดยมีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 41,916 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัด

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday November 2, 2012 09:00 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย (ThaiBMA) สรุปภาวะตลาดตราสารหนี้ไทยเมื่อวานนี้ (1 พ.ย.) มีมูลค่าการซื้อขายรวม 62,204 ล้านบาท โดยประเภทของตราสารที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงที่สุด คือ พันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย โดยมีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 41,916 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 67.4% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมดที่เกิดขึ้นในวันนี้ ลำดับถัดมาคือ พันธบัตรรัฐบาล มีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 17,949 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 28.8% ทางด้าน หุ้นกู้เอกชน มีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 1,877 ล้านบาท หรือคิดเป็น 3.02% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมด

สำหรับ พันธบัตรรัฐบาล รุ่นที่นิยมซื้อขายสูงสุดในวันนี้คือ พันธบัตรรุ่น LB176A LB15DA และLB155A (รุ่นอายุ 4.6 ปี 3.1 ปี และ 2.5 ปี ตามลำดับ) โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 10,256 ล้านบาท หรือคิดเป็น 57% ของมูลค่าการซื้อขายพันธบัตรรัฐบาลทั้งหมด ทางด้าน หุ้นกู้เอกชน รุ่นที่นิยมซื้อขายสูงสุด 3 อันดับแรกในวันนี้ คือ

1. หุ้นกู้ของบริษัท โตโยต้า ลิสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด (TLT138A) มูลค่า 302 ล้านบาท

2. หุ้นกู้ของบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (PTTC195C) มูลค่า 206 ล้านบาท

3. หุ้นกู้ของบริษัท อยุธยา แคปปิตอล ออโต้ ลีส จำกัด (มหาชน) (AYCAL145A) มูลค่า 191 ล้านบาท

โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 698 ล้านบาท หรือคิดเป็น 37% ของมูลค่าการซื้อขายหุ้นกู้เอกชนทั้งหมดในวันนี้

ทางด้านประเภทของนักลงทุน ที่มียอดซื้อสุทธิ สูงที่สุดเป็น 2 อันดับแรกในวันนี้ คือ

1. กลุ่มบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ซื้อสุทธิ 12,575 ล้านบาท

2. กลุ่มนิติบุคคลในประเทศ ซื้อสุทธิ 1,736 ล้านบาท

ในขณะที่นักลงทุนต่างชาติ มียอดซื้อสุทธิ มูลค่า 836 ล้านบาท

>>ภาพรวมของตลาดในวันนี้

Yield Curve ปรับตัวลดลงเล็กน้อยในทุกช่วงอายุของตราสาร ประมาณ 1-3 Basis Point ส่วนหนึ่งมาจากการที่นักลงทุนปรับพอร์ตโดยเข้าซื้อตราสารระยะยาวมากขึ้น ในวันนี้กระทรวงพาณิชย์ได้ประกาศดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) หรืออัตราเงินเฟ้อเดือนตุลาคม 2555 เท่ากับ 116.82 หรือปรับตัวสูงขึ้น 3.32 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และสูงขึ้นร้อยละ 0.13 เมื่อเทียบกับเดือนที่ผ่านมา ด้านนักลงทุนต่างชาติ มียอดซื้อสุทธิ (NET BUY) เท่ากับ 836 ล้านบาท


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ