นายชัยพร น้อมพิทักษ์เจริญ ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.บัวหลวง(BLS)กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้มีโอกาสที่จะปรับตัวขึ้นได้ในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่ส่วนใหญ่อยู่ในแดนบวก เนื่องจากรับ Sentiment เชิงบวกจากตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯที่ออกมาดี ไม่ว่าจะเป็นดัชนี ISM ภาคการผลิตของสหรัฐเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 51.7 ในเดือนต.ค.จากระดับ 51.5 ในเดือนก.ย.ซึ่งถือว่าดีเกินคาด และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานที่ต่ำกว่าคาด นอกจากนี้ ตัวเลขภาคการผลิตของจีนก็ออกมาดีด้วย
อย่างไรก็ดี ยังคงแนะนำให้เลือกเล่นเป็นรายตัวในช่วงที่กำลังรอการเลือกตั้งประธานาธิบดีของสหรัฐฯในวันที่ 6 พ.ย.นี้
พร้อมให้แนวรับไว้ที่ 1,290 จุด แนวต้าน 1,300 จุด
ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :
- ตลาดหุ้นนิวยอร์คเมื่อวานนี้(1 พ.ย.)ดัชนีดาวโจนส์ ปิดที่ 13,232.62 จุด เพิ่มขึ้น 136.16 จุด(+1.04%) ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 1,427.59 จุด เพิ่มขึ้น 15.43 จุด(+1.09%) และดัชนีแนสแด็ก ปิดที่ 3,020.06 จุด เพิ่มขึ้น 42.83 จุด(+1.44%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้านี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 102.35 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 244.42 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 52.56 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 22.11 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 12.84 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย ลดลง 1.87 จุด และดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลีย เพิ่มขึ้น 12.50 จุด
- ตลาดหุ้นไทยปิดเมื่อวานนี้(1 พ.ย.)ที่ระดับ 1,297.99 จุด ลดลง 0.88 จุด(-0.07%)
- นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 1,494.21 ล้านบาทเมื่อวานนี้
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ธ.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการเมื่อวานนี้ที่ 87.09 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 0.85 ดอลลาร์หรือ 1%
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์วานนี้ปิดที่ 6.1 เหรียญฯ/บาร์เรล
- เงินบาทเปิดตลาดเช้าที่ระดับ 30.72/74 อ่อนค่าเล็กน้อยตามยูโร
- ธนาคารแห่งประเทศไทย มีแนวคิดที่จะพูดคุยหารือกับธนาคารพาณิชย์และบริษัทปล่อยสินเชื่อที่ไม่ใช่สถาบันการเงิน(นันแบงก์) เพื่อขอความร่วมมือไม่ให้กระตุ้นหรือเร่งการปล่อยสินเชื่อบุคคลมากนัก โดยเฉพาะผู้มีรายได้น้อยที่มีรายได้ต่ำกว่าเดือนละ 1-1.5 หมื่นบาท
- กระทรวงพาณิชย์ ประเมินว่า เงินเฟ้อปีนี้จะสูงไม่เกิน 3.1% ต่ำกว่าประมาณการของเดือนที่แล้ว ที่คาดว่าเงินเฟ้อทั้งปีจะอยู่ที่ 3.2% โดยคาดว่าไตรมาสสุดท้ายเงินเฟ้อจะอยู่ที่ 3.2-3.5% เนื่องจาก2 เดือนสุดท้ายเงินเฟ้อจะอยู่ในระดับใกล้เคียงเดือน ต.ค. ที่สูงขึ้น3.32% เทียบกับเดือนเดียวกันปีก่อน
- ผู้อำนวยการศูนย์ติดตามและพยากรณ์เศรษฐกิจการเกษตร (KU-OAE Foresight Center : KOFC) เปิดเผยว่า จากการเปรียบเทียบนโยบายระหว่างนายบารัก โอบามา จากพรรคเดโมแครต กับนายมิตต์ รอมนีย์ จากพรรครีพับลิกัน พบว่า พรรคเดโมแครตมีนโยบายเสรีนิยมและใช้มาตรการผ่อนปรนเป็นหลัก ในขณะที่พรรครีพับลิกันมีนโยบายอนุรักษนิยมที่เน้นมาตรการแข็งกร้าว
- สำนักงานเศรษฐกิจการแรงงานกระทรวงแรงงาน เปิดเผยรายงานการเตือนภัยด้านแรงงานไตรมาส 3 ระบุ ว่าแม้เศรษฐกิจจะชะลอตัวจากการส่งออกและการผลิตที่หดตัวมากกว่าที่คาด แต่จากการวิเคราะห์ด้วย Probit Model พบว่าแนวโน้มการจ้างงานยังอยู่ในภาวะปกติโอกาสเกิดวิกฤตในตลาดแรงงานสิ้นไตรมาส 4 และไตรมาสแรก ปี 2556 มีเพียง 0.44% และ 0.10% ตามลำดับ
- ตลาดหลักทรัพย์ฯชี้ฟรีโฟลตบจ.เฉลี่ย 40% จากอดีตเฉลี่ย 30% เหตุ ผู้บริหาร บจ.ให้ความสำคัญมากขึ้นในการสร้างความน่าสนใจโดยใช้เครื่องมือทางการเงินช่วยดึงดูดนักลงทุน เช่น หุ้นเทรดราคาต่ำกว่า 1 บาท มีการรวมพาร์ เพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่ดี จากเดิมอาจถูกมองว่าเป็นหุ้นปั่น ทำให้ปัจจุบันเหลือหุ้นต่ำกว่า 1 บาท เพียง 38 บริษัท จากปีก่อนที่มี 73 บริษัทส่วนหุ้นพาร์สูง แตกพาร์ ปีนี้ทำแล้ว 14 บริษัท
- อธิบดีกรมสรรพสามิต เปิดเผยว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการของบประมาณปี 2556 เพิ่มเติมจากคณะรัฐมนตรี(ครม.) จำนวน 1.1 หมื่นล้านบาท เพื่อใช้ในการจ่ายคืนเงินให้กับประชาชนที่ใช้สิทธิในโครงการคืนภาษีรถยนต์คันแรก โดยเบื้องต้นคาดว่าจนถึงสิ้นปีน่าจะมีประชาชนมาขอใช้สิทธิคืนภาษีคิดเป็นวงเงิน 1.8 หมื่นล้านบาท
*หุ้นเด่นวันนี้
- KCE(บัวหลวง)"ซื้อ"เป้า 10.60 บาท แนวโน้มกำไรสุทธิในระยะสั้นและแนวโน้มการเติบโตของกำไรหลักในอนาคต โดยคาดการณ์กำไรหลักไตรมาส 3/55 ที่ 75 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 192% QoQ แต่ลดลง 5% YoY การเติบโตของกำไรในไตรมาส 4/55 ส่วนใหญ่จะหนุนโดยยอดขายที่ขยายตัว พร้อมมองว่ามีอัพไซด์จากการรวมงบกับ Chemtronics ในไตรมาส 4/55 ซึ่งจะช่วยหนุนให้อัตรากำไรขั้นต้นปี 2556 สูงขึ้น 0.67%
- TPIPL(เมย์แบงก์ กิมเอ็ง)"ซื้อเก็งกำไร"เป้า 17 บาท เชื่อหุ้นกลุ่มปูนซีเมนต์จะ Outperform ตลาดได้อย่างต่อเนื่อง จากวัฎจักรขาขึ้นในช่วง 3 ปี ข้างหน้า ตามแรงผลักดันของโครงการ Infrastructure ขนาดใหญ่ในประเทศ รวมทั้งความต้องการที่ขยายตัวสูงในภูมิภาค ASEAN เพื่อเตรียมความพร้อมจากการเปิด AEC ในปี 58 ขณะที่ ปัจจัยบวกช่วงสั้น คือผลประกอบการ 3Q55 ที่คาดว่าจะพลิกเป็นเป็นกำไรสุทธิราว 200 ล้านบาท จากขาดทุนสุทธิ 291 ล้านบาท ใน 2Q55
- PTT (เกียรตินาคิน)"ซื้อ"เป้า 388 บาท ราคาหุ้นยังไม่สะท้อนปัจจัยบวกจากการฟื้นตัวของผลประกอบการในอนาคต ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากแรงกดดันจากประเด็นการเพิ่มทุนของ PTTEP อย่างไรก็ตาม มองว่าการฟื้นตัวของผลประกอบการ 3Q55 รวมทั้งภาพรวมของ 2H55 ที่ดีขึ้นจาก 1H55 จะทำให้ PTT กลับมามีความน่าสนใจในการลงทุน
- LPN (เกียรตินาคิน)"ซื้อเก็งกำไร"เป้า 19.25 บาท น่าสนใจจากงานในมือที่รอรับรู้รายได้สูง ที่จะรับรู้ใน 4Q55 ทำให้มีผลประกอบการเติบโตสูงสุดเมื่อเทียบกับทั้งปีต่อเนื่องถึงปี 2556 ทำให้กำไรปีหน้า คาดว่าจะเติบโตอีก 26% YoY นอกจากนี้ LPN ยังมีโอกาสจ่ายเงินปันผลสำหรับงวด 2H55 ราว 47 สตางค์ต่อหุ้น ให้อัตราผลตอบแทนเงินปันผล 2.6%