(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้อ่อนลงตามดาวโจนส์, รอเลือกตั้งปธน.สหรัฐฯ

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday November 5, 2012 09:32 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิจัย บล.เอเชีย พลัส คาดว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้มีโอกาสที่จะอ่อนตัวลง เนื่องจากดาวโจนส์ได้ปรับตัวลงค่อนข้างมาก ขณะที่ตลาดฯช่วงนี้ยังไม่ได้มีปัจจัยใหม่เข้ามา

นอกจากนี้ ตลาดก็กำลังรอดูการเลือกตั้งประธานาธิบดีของสหรัฐฯในวันที่ 6 พ.ย.นี้ พร้อมให้แนวรับ 1,295, 1,285 จุด แนวต้าน 1,314 จุด โดยแนะลดพอร์ตลงทุนลงเหลือ 40%

ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์คล่าสุด(2 พ.ย.)ดัชนีดาวโจนส์ ปิดที่ 13,093.16 จุด ลดลง 139.46 จุด(-1.05%) ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 1,414.20 จุด ลดลง 13.39 จุด(-0.94%) และดัชนีแนสแด็ก ปิดที่ 2,982.13 จุด ลดลง 37.93 จุด(-1.26%)
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้านี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ ลดลง 50.41 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ ลดลง 67.12 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ ลดลง 9.70 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ ลดลง 13.26 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ ลดลง 11.36 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 2.45 จุด และดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียเปิดวันนี้ ลดลง 2.70 จุด
  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด(2 พ.ย.)ที่ระดับ 1,306.60 จุด เพิ่มขึ้น 8.61 จุด(+0.66%)
  • นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 544.38 ล้านบาทเมื่อ 2 พ.ย.55
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ธ.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการเมื่อวานนี้ที่ 84.86 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 2.23 ดอลลาร์หรือ 2.6%
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ล่าสุดปิดที่ 5.3 เหรียญฯ/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิดตลาดเช้าที่ระดับ 30.75/79 แนวโน้มอ่อนค่า
  • "เจโทร"เผยเอสเอ็มอี ชิ้นส่วนฯสนใจเข้าไทย ด้านค่ายรถลุยเพิ่มผลิต ขึ้นแท่นอันดับ10โลก, วิกฤติเงินเยนแข็งค่า-ความเสี่ยงด้านพลังงานไฟฟ้าไม่เพียงพอ อุปสรรคต่อธุรกิจของญี่ปุ่น ส่งผลให้เกิดการเคลื่อนย้ายการลงทุนเข้าไทยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับปัญหาแย่งชิงหมู่เกาะในทะเลจีนตะวันออก ทำให้ญี่ปุ่นมองหาพื้นที่ลงทุนใหม่ เน้นอาเซียนฐานผลิตใหญ่ ขณะที่ธนาคารและองค์กรเอกชนของญี่ปุ่นหันทำข้อตกลงอำนวยความสะดวกแก่นักลงทุน ขณะบีโอไอเตรียมเจาะลึกเฉพาะกลุ่ม เน้นธุรกิจเทคโนโลยีและมูลค่าเพิ่มสูงเข้าไทย
  • แหล่งข่าวจากสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เผยในวันที่ 5 พ.ย.นี้ ตัวแทนนายจ้างทุกจังหวัด และผู้บริหารระดับสูงของสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ประมาณกว่า 100 คน จะเข้าพบนายเผดิมชัยสะสมทรัพย์ รมว.แรงงาน เพื่อชี้แจงผลกระทบต่อธุรกิจเอสเอ็มอีทั่วประเทศ ที่จะได้รับผลกระทบจากนโยบายการปรับขึ้นค่าจ้างเป็น300 บาท/วัน และจะขอให้ทยอยปรับขึ้นค่าจ้างจนครบ 300 บาทต่อวันทั่วประเทศในปี 2558 จากเดิมที่รัฐบาลประกาศให้ขึ้นค่าจ้าง 300 บาทต่อวันในวันที่ 1 ม.ค. 2556
  • รมว.พลังงาน เปิดเผยว่า ในวันที่ 5 พ.ย. ได้นัดประชุมเชิงปฏิบัติการ(เวิร์กช็อป) โครงสร้างราคาพลังงานร่วมกับผู้บริหารกระทรวงพลังงานซึ่งเป็นวันแรกของการทำงานในฐานะตำแหน่ง รมว.พลังงาน โดยนโยบายที่จะดำเนินการต่อเนื่องคือการตรึงราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลไม่ให้เกินลิตรละ 30 บาท เพื่อช่วยลดต้นทุนภาคขนส่งและป้องกันไม่ให้ไปกระทบถึงราคาสินค้าอุปโภคบริโภค
  • อธิบดีกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า กรมบัญชีกลางตั้งเป้าการเบิกจ่ายงบประมาณ 2556 จำนวน 2.4 ล้านล้านบาท ให้ได้ 94.5% โดยเฉพาะงบลงทุนจำนวน 3.6 แสนล้านบาท ให้ได้ 82% ซึ่งการตั้งเป้าการเบิกจ่ายครั้งนี้ถือว่าสูงกว่าทุกปีที่ผ่านมา ที่ภาพรวมการเบิกจ่ายอยู่ที่ 92% และงบลงทุนอยู่ที่ 72%
  • ตลาดหลักทรัพย์ฯ ชี้ เกณฑ์ใหม่เกี่ยวกับ บจ.มีผลบังคับใช้ 1 ม.ค. 56 ทั้งการรับหลักทรัพย์ด้วยมาร์เกตแคป-การรับหุ้นต่างประเทศ-การย้ายตลาดด้วยมาร์เกตแคป และแคสคอมพานี ผู้บริหาร แจง ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของ ก.ล.ต.

*หุ้นเด่นวันนี้

  • TCAP(เมย์แบงก์ กิมเอ็ง)"ซื้อเก็งกำไร"ราคาเหมาะสม 45 บาท หลังธนาคารธนชาตที่ TCAP ถือหุ้นสัดส่วน 50.96% ขายหุ้น บริษัท ธนชาติประกันชีวิต (TLIFE) ให้กับ พรูเด็นเชียล ประกันชีวิต มูลค่า 18,000 ล้านบาท คาดชำระราคาหุ้นและโอนหุ้นจะเสร็จสิ้นได้ใน 1Q56 คาดธนาคารธนชาตจะบันทึกกำไรพิเศษจากรายการดังกล่าวสูงถึงราว 1.65 หมื่นล้านบาท และส่งผลบวกต่อ TCAP ตามสัดส่วนการถือหุ้นที่ 50.96% เท่ากับ 8.5 พันล้านบาท(ก่อนภาษี) หรือ คิดเป็นกำไรต่อหุ้นราว 6.65 บาท
  • PTTGC(เกียรตินาคิน)"ซื้อ"เป้า 68 บาท คาดกำไรสุทธิ 3Q55 ทำสถิติสูงสุดใหม่เกือบ 1.3 หมื่นล้านบาท ดีกว่า 2Q55 ที่มีกำไรสุทธิเพียง 851 ล้านบาท จากการฟื้นตัวของกลุ่มธุรกิจโรงกลั่นจากค่าการกลั่นและราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้น และส่วนต่างราคาปิโตรเคมีที่ฟื้นตัว ขณะที่แนวโน้มกำไร 4Q55 ยังแข็งแกร่งต่อเนื่องจาก High Season ของความต้องการใช้ปิโตรเลียมและปิโตรเคมี ราคาหุ้นยัง Laggard
  • MFEC(เกียรตินาคิน)"ซื้อ"เป้า 7.50 บาท เป็นหุ้นกลุ่มสื่อสารขนาดเล็กที่น่าสนใจจากปัจจัยลงทุนโดดเด่นด้วยอัตราการเติบโตของกำไรสุทธิ 3 ปีเฉลี่ย 30% ต่อปี มีการจ่ายเงินปันผลสม่ำเสมอให้ผลตอบแทนปันผลราว 6% งบ 3Q55 คาดกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 12% QoQ จากการรับรู้งานโครงการที่เลื่อนจากครึ่งปีแรกและมีการบริหารค่าใช้จ่ายได้ดีขึ้นขณะที่ 4Q55 จะดีที่สุดในรอบปีปัจจุบันหุ้นซื้อขายที่ PE 11 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยบริษัทที่เราศึกษาที่ 18 เท่า
  • TTCL(เมย์แบงก์ กิมเอ็ง)"ซื้อ"เป้า 29 บาท คาดผลประกอบการของ 3Q55 จะทำยอดสูงเป็นประวัติการณ์ จากแรงหนุนของ Backlog ในมือ การบริหารจัดการต้นทุนที่ดีขึ้น โดยคาดกำไรสุทธิของ 3Q55 ที่ 143 ล้านบาท (+73% YoY และ +82% QoQ) และแนวโน้มผลประกอบการคาดว่าจะดีต่อเนื่องใน 4Q55 ทำให้เชื่อปี 2555 รายได้และกำไรสุทธิเติบโต 36% YoY และ 25% YoY นอกจากนี้ยังมีโอกาสได้งานใหม่ขนาดใหญ่ Backlog ที่แข็งแกร่ง และแรงหนุนจากโรงไฟฟ้า

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ