ความร่วมมือครั้งนี้ จะช่วยให้ธนาคารสามารถขยายตลาดลูกค้าเอสเอ็มอีในจีนได้มากยิ่งขึ้น โดยมีธนาคารเปาซางซึ่งมีความเข้าใจในตลาดและกลุ่มลูกค้าจีนเป็นพันธมิตรในการร่วมให้บริการและสนับสนุนสินเชื่อแก่เอสเอ็มอีในจีน และจะร่วมมือกันพัฒนาแบบจำลองการให้คะแนนสินเชื่อและการปล่อยสินเชื่อ(Credit Scoring Model) การปล่อยเงินกู้ร่วม(Syndicate loan) ในจีนหรือไทย สำหรับโครงการที่ลงทุนหรือพัฒนาโดยบริษัทจีนหรือไทย นอกจากนี้ ทั้งสองธนาคารยังร่วมกันพัฒนาเทคโนโลยีสินเชื่อและแลกเปลี่ยนความรู้เชิงธุรกิจและประสบการณ์ด้านการบริหารจัดการ รวมถึงการอบรมเพื่อเสริมศักยภาพบุคลากรระหว่างกันด้วย
ปัจจุบัน จีนนับเป็นตลาดที่มีจำนวนผู้ประกอบการเอสเอ็มอีมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก โดยมีเอสเอ็มอีที่บริษัทมีพนักงานไม่เกิน 300 คน และมีอัตราการหมุนเวียนของเงินต่อปีไม่เกิน 50 ล้านหยวน หรือยอดขายต่อปีไม่เกิน 80 ล้านหยวนประมาณ 42 ล้านราย ซึ่งมีเอสเอ็มอีที่มีศักยภาพจำนวนมากยังขาดการสนับสนุนสินเชื่อและเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจอย่างเพียงพอ จึงเป็นโอกาสของธนาคารกสิกรไทย ซึ่งเป็นธนาคารที่มีความเชี่ยวชาญในตลาดเอสเอ็มอีในประเทศไทยจะขยายตลาดเข้าไปสนับสนุนสินเชื่อแก่เอสเอ็มอีในจีน โดยร่วมมือกับพันธมิตรธนาคารท้องถิ่นที่มีความเข้าใจในลูกค้าดีอยู่แล้ว
นายบัณฑูร กล่าวว่า การลงนามในบันทึกความร่วมมือในครั้งนี้ ถือเป็นการเพิ่มโอกาสในการขยายฐานลูกค้าของธนาคารให้เข้าถึงกลุ่มวิสาหกิจรายเล็กและรายย่อยในจีนมากขึ้น เพื่อสนับสนุนการพัฒนาเอสเอ็มอีในประเทศจีน ตลอดจนส่งเสริมความร่วมมือทางเศรษฐกิจการค้าระหว่างทั้งสองประเทศ
ทั้งนี้ ธนาคารฯ ยังคงมีนโยบายในการบุกตลาดต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง โดยในปัจจุบัน ธนาคารฯ มีสาขาหรือสำนักงานตัวแทนต่างประเทศจำนวน 8 แห่ง ได้แก่ สาขาเซินเจิ้น สำนักงานผู้แทนกรุงปักกิ่ง สำนักงานผู้แทนนครเซี่ยงไฮ้ สำนักงานผู้แทนเมืองคุนหมิง สาขาฮ่องกง สาขาลอสแองเจลิส สาขาหมู่เกาะเคย์แมน และสำนักงานกรุงโตเกียว
สำหรับธนาคารเปาซางเป็นธนาคารท้องถิ่นของประเทศจีน ภายใต้การบริหารของนายหลี่ เจิ้น ซี ประธานกรรมการ มีสาขาทั้งสิ้น 18 สาขา แบ่งเป็น 14 สาขาในเขตมองโกเลียใน และ 4 สาขาในเมืองใหญ่ ได้แก่ ปักกิ่ง หนิงโป เสิ่นเจิ้น และ เฉิงตู รวมทั้งสาขาย่อย 105 แห่ง มีพนักงานกว่า 6,000 คน กลุ่มลูกค้าหลักของธนาคารเป็นกลุ่มวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม
ก่อนหน้านี้ ธนาคารกสิกรไทย ได้ร่วมมือกับธนาคารไชน่า หมินเซิง ในการร่วมปล่อยกู้แก่เอสเอ็มอีในจีนมาแล้ว ด้วยการร่วมทุนปล่อยกู้ธนาคารละ 200 ล้านหยวน ซึ่งนับว่าเป็นความร่วมมือที่ประสบผลสำเร็จอย่างสูง ทั้งวงเงินที่ปล่อยกู้และคุณภาพสินเชื่อที่มีหนี้เสียต่ำมาก ในขณะที่ธนาคารกสิกรไทยสามารถเรียนรู้สภาพตลาดสินเชื่อเอสเอ็มอีในจีนมากขึ้น ซึ่งจะเป็นรากฐานในการดำเนินธุรกิจของธนาคารในประเทศจีนระยะยาวต่อไป