สำหรับพันธบัตรรัฐบาล รุ่นที่มีปริมาณการซื้อขายสูงที่สุด 3 อันดับแรกคือรุ่น LB176A (อายุ 4.8 ปี) LB155A (อายุ 2.6 ปี) และ LB21DA (อายุ 9.1 ปี) มีมูลค่าการซื้อขายในแต่ละรุ่นเท่ากับ 17,447 ล้านบาท 9,899 ล้านบาท และ 8,760 ล้านบาท ตามลำดับ ส่วนพันธบัตรที่ออกโดยธนาคารแห่งประเทศไทย รุ่นที่มีปริมาณการซื้อขายสูงสุด 3 อันดับแรก คือรุ่น CB12N20A (อายุ 14 วัน) CB12N29C (อายุ 28 วัน) และ CB13131B (อายุ 91 วัน) มูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 47,216 ล้านบาท 37,080 ล้านบาท และ 32,422 ล้านบาท ตามลำดับ
ทางด้านหุ้นกู้ภาคเอกชน ที่มีปริมาณการซื้อขายสูงที่สุด 3 อันดับแรก ได้แก่ หุ้นกู้ของบริษัท โตโยต้า ลีสซิ่ง(ประเทศไทย) จำกัด (รุ่น TLT138A (AAA)) มูลค่าการซื้อขาย 654 ล้านบาท หุ้นกู้ของบริษัท เอ็มบีเค จำกัด (มหาชน) (MBK137 (A)) มูลค่าการซื้อขาย 445 ล้านบาท และหุ้นกู้ของบริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) (CPN156A (A+)) มูลค่าการซื้อขาย 439 ล้านบาท
เส้นอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล (Yield Curve) ปรับตัวลดลงตลอดทั้งเส้น หรือปรับตัวลงลดในช่วงประมาณ -1 ถึง -7 Basis Point (100 Basis point มีค่าเท่ากับ 1%) โดยการปรับตัวลดลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลไทยในสัปดาห์นี้ ส่วนหนึ่งเป็นการปรับตัวลดลงตามอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ (US Treasury) ในขณะที่อีกส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากแรงซื้อของนักลงทุนในตลาด ที่ปรับพอร์ตมาลงทุนในกลุ่มของตราสารระยะกลางถึงระยะยาวมากขึ้น ตามทิศทางของอัตราดอกเบี้ยทั้งในประเทศไทย และในต่างประเทศที่เริ่มมีแนวโน้มว่าจะปรับตัวลดลงตามการชะลอตัวของภาวะเศรษฐกิจ นอกจากนี้แล้ว กระแสเงินทุนต่างชาติที่ยังคงไหลเข้าสู่ประเทศในภูมิภาคเอเชียรวมถึงประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง ก็มีผลทำให้นักลงทุนในตลาดติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดว่าธนาคารแห่งประเทศไทยจะมีการส่งสัญญาณ หรือมีแนวโน้มที่จะประกาศใช้มาตรการใดๆ ที่จะมีผลต่อทิศทางดอกเบี้ยในประเทศอีกหรือไม่ ก่อนที่จะมีการประชุมของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) นัดสุดท้ายของปี 2555 นี้ ในวันที่ 28 พฤศจิกายน ที่จะถึงนี้
ทั้งนี้ ในสัปดาห์นี้นักลงทุนต่างชาติมียอด ซื้อสุทธิ ในตราสารหนี้ทุกประเภทรวมกัน (ทั้งระยะสั้น และระยะยาว) 16,913 ล้านบาท แต่หากพิจารณาเฉพาะการซื้อขายในตราสารหนี้ระยะยาว(อายุคงเหลือมากกว่า 1 ปี) จะพบว่าเป็นการซื้อสุทธิ 1,345 ล้านบาท ทางด้านนักลงทุนรายย่อย (Individual) ที่ถึงแม้จะมีสัดส่วนการซื้อขายในตลาดตราสารหนี้ค่อนข้างน้อย แต่ในสัปดาห์นี้มียอดซื้อสุทธิ 742 ล้านบาท