ภาพรวมธุรกิจโลจิสติกส์ไทยในปัจจุบัน กิจการรายย่อยมีแนวโน้มรวมตัวกันมากขึ้น รวมทั้งการมีพันธมิตรร่วมมือกันพัฒนาและแลกเปลี่ยนข้อมูลกันเพื่อให้บรรลุเป้าหมายธุรกิจ ทั้งนี้โลจิสติกส์ เป็นต้นทุนสำคัญของสินค้า ทำให้เกิดข้อได้เปรียบด้านการแข่งขัน โดยเฉพาะในยุคน้ำมันแพง การบริหารโลจิสติกส์ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดจึงมีความสำคัญ
นายนิธิ ภัทรโชค กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสซีจี โลจิสติกส์ แมเนจเม้นท์ จำกัด เปิดเผยว่า จากปัญหาต้นทุนโลจิสติกส์ของไทยที่ยังอยู่ในระดับสูงเมื่อเทียบกับประเทศที่พัฒนาแล้ว การหาแนวทางเพิ่มประสิทธิภาพด้านโลจิสติกส์ จะช่วยให้ผู้ประกอบการของไทยมีต้นทุนทางธุรกิจที่ต่ำลง เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันกับประเทศคู่แข่งอื่น ๆ ได้มากขึ้น
ดังนั้น เอสซีจี โลจิสติกส์ จึงได้ร่วมกับธนาคารกสิกรไทยให้บริการ K-Value Chain Solutions เพื่อสนับสนุนบริการด้านโลจิสติกส์และการขนส่งสินค้าอย่างเต็มรูปแบบทั้งในและต่างประเทศให้กับเครือข่ายผู้ประกอบการด้านธุรกิจขนส่งทั่วประเทศ ประกอบกับ การรวมตัวเป็นกลุ่มประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ในปี 2558 ทำให้ไทยซึ่งมีลักษณะภูมิศาสตร์ที่สามารถจะพัฒนาเป็นศูนย์กลางด้านโลจิสติกส์และการขนส่งของอาเซียน จีน อินเดียได้
ดังนั้น เพื่อเตรียมพร้อมรับโอกาสและความท้าทายที่กำลังจะมาถึง จึงได้กำหนดกลยุทธ์และเป้าหมายเพื่อรองรับการขยายบริการและการเติบโตของธุรกิจ เตรียมความพร้อม ได้แก่ การเตรียมรถขนส่งให้เพียงพอกับความต้องการของลูกค้า ด้วยการร่วมกับธนาคารกสิกรไทยให้บริการสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ใหม่เพื่อเพิ่มรถขนส่งอีกกว่า 1,000 คัน จัดตั้งศูนย์รวมการจัดซื้อขนส่งและอุปกรณ์ด้านโลจิสติกส์ และพัฒนารถขนส่งอเนกประสงค์ให้สามารถรับสินค้าได้หลายประเทศ
นอกจากนี้ พัฒนาบุคลากร ทั้งพนักงาน ผู้บริหารขนส่งในสังกัด และพนักงานขับรถ ด้วยการจัดอบรมสัมมนาให้ความรู้เกี่ยวกับโลจิสติกส์ในภาพประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน รวมถึงการให้ความรู้ทางด้านการเงิน เพื่อการเติบโตของธุรกิจอย่างยั่งยืน
พัฒนาด้านเทคโนโลยี ด้วยการนำระบบการออกออร์เดอร์ ระบบจัดเที่ยวขนส่ง ระบบบริหารคลังสินค้า ระบบ GPS มาเชื่อมโยงรวมเครือข่าย เพื่อให้สามารถตรวจสอบสถานะได้ทั้งระบบ
นายกฤษฎา ล่ำซำ รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) เปิดเผยว่า ธนาคารกสิกรไทย ร่วมกับบริษัท เอสซีจี โลจิสติกส์ แมเนจเม้นท์ จำกัด พัฒนานวัตกรรมโครงการ K-Value Chain Solutions เพื่อดูแลลูกค้าและเครือข่ายคู่ค้าให้ครบทั้งห่วงโซ่ธุรกิจแบบครบวงจร (Total Solutions) ทั้งผลิตภัณฑ์ทางการเงิน บริการ และองค์ความรู้ เพื่อตอบสนองความต้องการของบริษัทและคู่ค้า ประกอบด้วย
การให้การสนับสนุนด้านเงินทุน (Financial Solutions) ด้วยบริการสินเชื่อหมุนเวียน เพื่อเพิ่มสภาพคล่องทางธุรกิจ ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนทางการเงินได้ถึง 26% รวมถึงให้สินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ให้แก่ผู้รับเหมาขนส่งในเครือข่ายของเอสซีจี เพื่อเพิ่มจำนวนรถขนส่งให้เพียงพอต่อความต้องการ โดยมีเป้าหมายที่จะปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ไว้ที่ 4,600 ล้านบาท หรือคิดเป็นรถขนส่ง 2,000 คัน
นอกจากนี้ บริการชำระเงินผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ (Payment Solutions) บริการชำระเงินค่าสินค้าสำหรับตัวแทนจำหน่ายกับเอสซีจีผ่านระบบ Online (eSCF) ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน โดยมีการรายงานทุกขั้นตอน สามารถตรวจสอบความถูกต้องของรายการได้ตลอด ลดเวลาทำงานได้ 1 ชั่วโมงต่อวัน และบริการชำระเงินค่าขนส่งผ่านบัตรธุรกิจ (P-Card) เพิ่มความสะดวก ปลอดภัย ไม่ต้องใช้เงินสด
บริการลดความเสี่ยงทางธุรกิจด้วยการประกันภัยที่หลากหลาย (Risk Management Solutions) ให้คำแนะนำในการทำประกันเพื่อป้องกันความเสี่ยงจากการผิดนัดชำระค่าสินค้าจากคู่ค้า (Trade Credit Insurance) โดยมีเป้าหมายในการคุ้มครองยอดขายที่ 12,000 ล้านบาท ภายใน 3 ปี ซึ่งปัจจุบันธนาคารกสิกรไทยช่วยให้คำแนะนำด้านการประกันภัยเพื่อคุ้มครองยอดขายกับ SCG และผู้แทนจำหน่ายของ SCG อยู่กว่า 9,000 ล้านบาท ซึ่งปัจจุบันธนาคารกสิกรไทยเป็นผู้ให้บริการหลัก
การจัดกิจกรรมส่งเสริมความรู้ (Non-Financial Solutions) การจัดสัมมนาเพื่อให้ความรู้ทางด้านการบริหารจัดการการเงิน สำหรับผู้รับเหมาขนส่ง พนักงาน และผู้แทนจำหน่ายของเอสซีจี เพื่อนำความรู้ไปพัฒนาธุรกิจและลดต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ ธนาคารกสิกรไทย เป็นธนาคารแห่งแรกที่เปิดให้บริการ K-Value Chain Solutions เพื่อตอบสนองความต้องการในวงจรธุรกิจของบริษัทขนาดใหญ่ที่มีเครือข่ายธุรกิจยาวและซับซ้อนอย่างครบวงจร ตั้งเป้าให้บริการ K-Value Chain Solutions แก่เครือข่าย 7 อุตสาหกรรม ได้แก่ ปิโตรเลียมและปิโตรเคมี ค้าปลีก-ค้าส่ง อุปกรณ์วัสดุก่อสร้าง กลุ่มขนส่ง กลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม กลุ่มยานยนต์และอะไหล่ยานยนต์ กลุ่มธุรกิจโรงพยาบาลและเครื่องมือทางการแพทย์ มียอดธุรกิจรวมกว่า 13 ล้านล้านบาท และธนาคารกสิกรไทยมีส่วนแบ่งการตลาดอยู่ประมาณ 20% ตั้งเป้าเพิ่มเป็น 30% ภายในปี 2558 และเป็นธนาคารหลักที่ดูแลลูกค้าตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ