กทค.จะเชิญเอกชนมาร่วมหารือในช่วงสัปดาห์หน้า และกำหนดให้ส่งแผนลงทุน อาทิ เงินลงทุน ค่าชุมสาย ระบบอชื่อมโยงต่างๆ ให้ กทค.ก่อนวันที่ 23 พ.ย.นี้ ซึ่งการหารือดังกล่าวจะเป็นเพียงการกำหนดอ้ตราค่าบริการขั้นสูงชั่วคราวสำหรับบริการด้านเสียง(วอยซ์)และค่าเชื่อมโยงโครงข่าย(ไอซี) โดยคาดว่าจะได้ข้อสรุปกลางเดือน ธ.ค.นี้
ปัจจุบัน กสทช.กำหนดกำกับเฉพาะผู้ให้บริการ 2 รายใหญ่อย่าง ADVANC และ DTAC ที่ให้บริการ 2G ที่นาทีละ 99 สต. อย่างไรก็ตาม จากกระแสที่มีบริษัทเอกชนออกมาระบุว่า อัตราค่าบริการจะไม่ถูกกว่าปัจจุบันแต่จะสู้กันที่กลไกการแข่งขันทางการตลาดนั้น ตามความคิดของตนนั้นคงจะเร็วเกินไปที่จะบอกว่าเอกชนไม่ให้ความร่วมมือ อีกทั้งเชื่อว่าเอกชนจะรู้บทบาทและหน้าที่ของตนเองอยู่แล้ว
อย่างไรก็ตาม กทค.จะยังไม่มีการกำหนดอัตราขั้นสูงของการให้บริการข้อมูล(ดาต้า) เนื่องจากเป็นเรื่องที่คำนวนยากและไม่เคยคิดมาก่อน จึงต้องมีความระมัดระวังในการออกข้อกำหนด ซึ่งต้องทราบต้นทุนที่ชัดเจนของดาต้า แต่ กทค.จะพยายามดำเนินการให้ทันกับประกาศราคาขั้นสูงตัวจริง
พ.อ.เศรษฐพงค์ กล่าวว่า การกำหนดอัตราขั้นสูงชั่วคราวเป็นการทำความเข้าใจเบื้องต้นให้ผู้ประกอบการและประชาชนเข้าใจ ซึ่งการออกประกาศจริงๆ จะต้องใช้ระยะเวลานานทั้งการเปิดฟังความคิดเห็นสาธารณะ (ประชาพิจารณ์) การประกาศลงราชกิจานุเบกษา ที่ต้องใช้ระยะเวลาหลายขั้นตอน ทั้งนี้ ประกาศราคาอัตราขั้นสูงตัวจริงอาจจะยังคงราคาเดิมของตัวชั่วคราวหรืออาจจะลดน้อยลงกว่านี้ก็ได้
"ราคาที่เราจะกำหนดต้องดูต้นทุน ปัจจุบันเรายังไม่ได้ดูข้อมูลที่แท้จริง เราคิดเองทำเอง ถ้ากำหนดอัตราขั้นสูง และตัวเลขที่ กสทช.จะกำหนดคงไม่ใช้ตัวเลขที่เสี่ยงมากสำหรับผู้ลงทุน ต้องให้เวลาคณะทำงานได้ดำเนินการ ทั้งนี้ ยืนยันว่ากรอบการให้ใบอนุญาตจะยังคงทำเดินการตามประกาศที่ออกมาแล้วและถือว่าเป็นกฏหมายที่ลงบอร์ดกสทช.และประกาศลงราชกจจานุเบกษา แต่จะระบุไม่ได้ว่าจะสามารถให้ใบอนุญาตเอกชนได้วันไหน การกำหนดอัตราขั้นสูงชั่วคราวจะต้องทำให้ทันกับการให้ใบอนุญาต ในกรอบระยะเวลา 90 วัน หลังจากที่ได้รับรองผลกรประมูล คือ วันที่ 18 ม.ค.56 ดังนั้นจึงต้องดำเนินการเป็นคู่ขนานได้ด้วย" พ.อ.เศรษฐพงค์ กล่าว
ขณะที่ นายวิชัย เบญจรงคกุล นายกสมาคมโทรคมนาคมไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้เข้ายื่นจดหมายต่อนายเฉลิมศักดิ์ จันทรทิมเลขาธิการสำนักผู้ตรวจการแผ่นดิน เรียกร้องไม่ให้มีการระงับการออกไลเซ่นส์ 3 จี ต้องหยุดชะงักลง เนื่องจากปัจจุบัน 3 จีล่าช้ามามากแล้ว หากเกิดปัญหาใดๆ ที่ทำให้ไม่สารถเดินหน้าต่อไปได้อีก จะสร้างความเสียหายให้กับประเทศเป็นอย่างมาก