ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์พุ่งขึ้น 133.24 จุด หรือ 1.02% ปิดที่ 13,245.68 จุด ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 11.13 จุด หรือ 0.79% ปิดที่ 1,428.39 จุด และดัชนี Nasdaq พุ่งขึ้น 12.27 จุด หรือ 0.41% ปิดที่ 3,011.93 จุด
นักลงทุนจับตาดูการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอย่างใกล้ชิด หลังจากที่โอบามาและรอมนีย์ได้เร่งทำคะแนนกันอย่างหนัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในรัฐที่ไม่สนับสนุนพรรคใดเป็นพิเศษ (swing states)
เมื่อวันจันทร์เวลา 24.00 น.ตามเวลาท้องถิ่น โอบามาและรอมนีย์ได้คะแนนเสียงไปเท่ากันคนละ 5 คะแนนจากการลงคะแนนเสียงเลือกตั้งในดิกซ์วิลล์ น็อทช์ รัฐนิวแฮมเชียร์ของสหรัฐ ซึ่งนับเป็นหมู่บ้านแรกๆของสหรัฐที่ได้มีการเปิดให้ลงคะแนนเสียง
นักวิเคราะห์แสดงความคิดเห็นว่า ผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในปี 2012 อาจจะออกมาคล้ายกับผลการเลือกตั้งในปี 2000 ซึ่งเป็นปีที่อดีตประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิ้ลยู บุช ต้องลงชิงชัยกับนายอัล กอร์ อดีตรองประธานาธิบดี และบุชได้รับชัยชนะด้วยคะแนนเสียงที่เหนือกว่ากอร์เพียงเล็กน้อย
ทั้งนี้ ในปี 2000 กอร์ชนะบุชในแง่ของ popular vote ในขณะที่บุชชนะในแง่ของ electoral vote (คะแนนเลือกตั้งในสหรัฐมี 2 แบบ เรียกว่า popular vote กับ electoral vote การที่ประชาชนออกจากบ้านไปเลือกคณะผู้เลือกตั้ง ถือเป็น popular vote จากนั้น คณะผู้เลือกตั้งไปเลือกประธานาธิบดีอีกทอดหนึ่งเรียกว่า electoral vote"
หุ้นฮิวเล็ตต์-แพคการ์ด (เอชพี) และหุ้นยูไนเต็ด เทคโนโลยีส์ คอร์ป ปรับตัวขึ้นอย่างน้อย 2.6% ขณะที่หุ้นคอมพิวเตอร์ซายส์ ซึ่งเป็นผู้จัดการเครือข่ายขององค์การนาซ่า ทะยานขึ้น 17% หลังจากโครงการลดต้นทุนได้ช่วยหนุนผลประกอบการของบริษัทแข็งแกร่งขึ้น
หุ้นเอ็กซ์เพรส สคริปส์ โฮลดิงส์ ซึ่งเป็นบริษัทเวชภัณฑ์รายใหญ่ของสหรัฐ ดิ่งลง 12% หลังจากบริษัทปรับลดคาดการณ์ผลประกอบการในปีหน้า
กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก รายสัปดาห์ในวันพฤหัสบดีนี้เวลา 19.30 น.ตามเวลาไทย ซึ่งนักวิเคราะห์คาดว่าจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 3 พ.ย.จะอยู่ที่ 380,000 ราย เพิ่มขึ้นจาก 363,000 รายในสัปดาห์ก่อนหน้า