สำหรับ พันธบัตรรัฐบาล รุ่นที่นิยมซื้อขายสูงสุดในวันนี้คือ พันธบัตรรุ่น LB21DA LB155A และLB176A (รุ่นอายุ 9.1 ปี 2.5 ปี และ 4.6 ปี ตามลำดับ) โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 13,810 ล้านบาท หรือคิดเป็น 48% ของมูลค่าการซื้อขายพันธบัตรรัฐบาลทั้งหมด ทางด้าน หุ้นกู้เอกชน รุ่นที่นิยมซื้อขายสูงสุด 3 อันดับแรกในวันนี้ คือ
1. หุ้นกู้ของบริษัท อยุธยา แคปปิตอล ออโต้ ลีส จำกัด (มหาชน) AYCAL145A) มูลค่า 261 ล้านบาท
2. หุ้นกู้ของบริษัท เอ็ม บี เค จำกัด (มหาชน) (MBK137A) มูลค่า 212 ล้านบาท
โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 658 ล้านบาท หรือคิดเป็น 55% ของมูลค่าการซื้อขายหุ้นกู้เอกชนทั้งหมดในวันนี้
ทางด้านประเภทของนักลงทุน ที่มียอดซื้อสุทธิ สูงที่สุดเป็น 2 อันดับแรกในวันนี้ คือ
1. กลุ่มบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ซื้อสุทธิ 12,975 ล้านบาท
2. กลุ่มสถาบันการเงินที่ไม่มีใบอนุญาตค้าตราสารหนี้ ซื้อสุทธิ 944 ล้านบาท
ในขณะที่นักลงทุนต่างชาติ มียอดซื้อสุทธิเช่นกัน มูลค่า 3,704 ล้านบาท
Yield Curve แกว่งตัวในกรอบแคบๆ ประมาณ 1-2 bps. ภายหลังผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ซึ่งส่งผลบวกด้านความต่อเนื่องในการดำเนินนโยบายเศรษฐกิจและทำให้นักลงทุนคาดว่าจะไม่มีผลกระทบที่มีนัยสำคัญต่อตลาดการเงิน สำหรับผลการประมูลพันธบัตรรุ่น Benchmark 10 ปีวันนี้ Yield ปรับขึ้นเล็กน้อย เนื่องจากอุปทานของพันธบัตรจะทยอยออกมาในช่วงเดือนนี้ ด้านนักลงทุนต่างชาติมีแรงซื้อในตราสารอายุ 5-10 ปี โดยมียอดซื้อสุทธิ (NET BUY) เท่ากับ 3,704 ล้านบาท