PPS เจรจาพันธมิตรมาเลเซียร่วมทุนขยายธุรกิจสู่กลุ่มโรงงานอุตสาหกรรม

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday November 8, 2012 13:00 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายธัช ธงภักดิ์ รองกรรมการผู้จัดการ บมจ.โปรเจค แพลนนิ่ง เซอร์วิส(PPS) เปิดเผยว่า บริษัทอยู่ระหว่างการเจรจากับพันธมิตรมาเลเซีย ซึ่งเป็นผู้ชำนาญด้านการออกแบบและก่อสร้างโรงงานอุตสาหกรรม เพื่อขยายโอกาสในการรับงานในประเภทที่บริษัทไม่ได้มีความชำนาญมาก่อน รวมถึงโอกาสในการรับงานของภาครัฐ คาดว่าจะมีความชัดเจนภายในปีหน้า

พร้อมกันนั้น บริษัทยังมองการร่วมทุนกับพันธมิตรในประเทศด้านไอที เพราะปัจจุบันหากมีความได้เปรียบด้านไอทีก็จะทำให้ธุรกิจเติบโตได้เร็วมากขึ้น

ก่อนหน้านี้ บริษัทจัดตั้งบริษัทร่วมทุนกับ SWAN & MACLAREN LLP, Singapore ภายใต้ชื่อ บริษัท สวอน แอนด์ แมคคลาเรน (ประเทศ ไทย) จำกัดเพื่อดำเนินธุรกิจออกแบบด้านสถาปัตยกรรมและวิศวกรรม รองรับงานด้านออกแบบโครงการขนาดใหญ่ในประเทศและภูมิภาคอาเซียน ซึ่งเป็นตลาดที่มีการเติบโตสูงของโครงการประเภทต่างๆ โดย PPS ถือหุ้น 35%

ขณะนี้บริษัทร่วมทุนดังกล่าวได้เสนองานออกแบบโรงแรมที่ภูเก็ต มูลค่ากว่า 20 ล้านบาท และในอนาคตจะเสนองานร่วมกันอย่างต่อเนื่อง คาดว่าในช่วง 3-5 ปีจะเข้าไปประมูลงานในประเทศแถบ AEC เพิ่มมากขึ้นด้วย

“การร่วมทุนในครั้งนี้จะเป็นการเสริมศักยภาพและต่อยอดการดำเนินธุรกิจของบริษัท เนื่องจากทั้งคู่มีความเชี่ยวชาญ ความน่าเชื่อถือ ที่ส่งเสริมความครบวงจรในการดำเนินงานซึ่งกันและกัน ขณะที่งานด้านออกแบบสถาปัตยกรรมและวิศวกรรมทั้งในและต่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภูมิภาคอาเซียน มีอัตราการเติบที่ค่อนข้างสูง ซึ่งถือเป็นโอกาสที่ดีในการเข้าเสนองานและรับงานออกแบบโครงการต่างๆได้มากยิ่งขึ้น"นายธัช กล่าว

ส่วนแนวโน้มธุรกิจวิศวกรที่ปรึกษาบริหารโครงการ คาดว่าจะยังมีอัตราการขยายตัวอยู่ในเกณฑ์ดีทั้งในช่วงที่เหลือของปีนี้ต่อเนื่องไปจนถึงปี 2556 โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากการลงทุนโครงการใหม่ของภาคอสังหาริมทรัพย์ กลุ่มธุรกิจค้าปลีก ห้างสรรพสินค้า ตลอดจนโครงการสาธารณูปโภคขนาดใหญ่ของภาครัฐ ซึ่งโดยส่วนใหญ่เป็นงานที่บริษัทมีความเชี่ยวชาญ รวมทั้งเป็นฐานลูกค้าเก่าบางส่วน จึงเป็นโอกาสอันดีของบริษัทในการเข้ารับงานบริหารโครงการได้อีกเป็นจำนวนมาก

นายธัช กล่าวต่อไปว่า จากการขยายตัวของโครงการก่อสร้างรูปแบบต่างๆ ทำให้บริษัทมีการรับงานวิศวกรที่ปรึกษาบริหารโครงการใหม่เข้ามาอย่างต่อเนื่อง โดยมีมูลค่างานในมือ (Backlog) ที่อยู่ระหว่างการดำเนินงาน ณ วันที่ 30 ก.ย. 2555 คิดเป็นมูลค่ารวม 414.16 ล้านบาท ซึ่งจะเริ่มรับรู้รายได้ในช่วงไตรมาส 4 ปีนี้ต่อเนื่องจนถึงปี 2560

อย่างไรก็ตาม ในปีนี้คาดว่ากำไรจะลดลงจากปีก่อน เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายในการฝึกอบรมพนักงานใหม่ และค่าใช้จ่ายทางด้านการบริการ และมีการปรับวิธีการบันทึกค่าใช้จ่ายส่วนอื่นด้วย ขณะที่ปีหน้าตั้งเป้ารายได้เติบโตเป็น 300 ล้านบาท จากปีนี้บริษัทยังรอดูอยู่และพยายามทำรายได้ให้ได้ตามเป้า 280 ล้านบาท แม้ในช่วงไตรมาส 4/55 จะมีงานในมือที่รอรับรู้รายได้แล้ว 40 กว่าล้านบาท บวกกับจะมีงานใหม่เข้ามาอีกส่วนหนึ่ง

สำหรับผลประกอบการงวด 9 เดือนปี 55 บริษัทมีรายได้รวม 201.51 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้นจำนวน 15.48 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 186.03 ล้านบาท หรือปรับตัวเพิ่มขึ้น 8.32% และมีกำไรสุทธิ 13.81 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 13.32 ล้านบาท ขณะที่ไตรมาส 3/55 บริษัทมีรายได้รวมทั้งสิ้น 68.48 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้นจำนวน 4.41 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 64.07 ล้านบาท หรือปรับตัวเพิ่มขึ้น 6.88% และมีกำไรสุทธิ 5.52 ล้านบาท

“แนวโน้มธุรกิจของบริษัทในช่วงที่เหลือของปีนี้จะมีการเติบโตอยู่ในเกณฑ์ดี และเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ โดยคาดว่ารายได้รวมของบริษัทในปีนี้จะมีการเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างน้อย 10% โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากปริมาณงานที่เพิ่มมากขึ้น และ การพัฒนาบุคลากรเพิ่มรองรับงานใหม่ๆ และเชื่อว่าในปี 56 จะเป็นปีที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องและโดดเด่นทั้งจากธุรกิจวิศวกรที่ปรึกษาบริหารโครงการ และธุรกิจออกแบบสถาปัตยกรรมและวิศวกรรม"นายธัช กล่าว


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ