“เราจะใช้หลักการลงทุน Good Stocks + Good Trade = Good Performance ที่ใช้กับทุกกองทุนของค่ายบัวหลวงมาคัดเลือกหุ้นของบริษัทขนาดเล็กและขนาดกลางที่มีศักยภาพทางธุรกิจ มีแนวโน้มเติบโตที่ดีอย่างต่อเนื่อง และมีราคาหุ้นที่ยังต่ำกว่ามูลค่าแท้จริงที่ควรจะเป็นตามปัจจัยพื้นฐาน ที่สำคัญกิจการที่จะลงทุนนั้นเราเน้นที่บริษัทที่มีการกำกับดูแลกิจการที่ดี โดยเบื้องต้นจะใช้อันดับ CG Scoring ของสมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย (IOD) เป็นเครื่องมือมากลั่นกรองอีกชั้นหนึ่ง"นางวรวรรณ กล่าว
นายพีรพงศ์ จิระเสวีจินดา กรรมการผู้จัดการ กลุ่มจัดการกองทุน บลจ.บัวหลวง กล่าวถึงโอกาสการลงทุนในหุ้นของกลุ่มธุรกิจขนาดเล็กและธุรกิจขนาดกลางว่า ธุรกิจของกลุ่มเหล่านี้น่าจะมีโอกาสการเติบโตเพิ่มมากขึ้นโดยได้รับประโยชน์ของการบริโภคภายในประเทศ ซึ่งจะเพิ่มมากขึ้นเมื่อเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน
นอกจากนี้ หุ้นกลุ่มนี้นักวิเคราะห์ก็ไม่ได้ให้ความสนใจมากนัก และนักลงทุนต่างประเทศโดยปกติก็ไม่ได้ให้น้ำหนักการลงทุนเท่าใด ทำให้ราคาหุ้นของหลายบริษัทยังมีโอกาสปรับเข้าสู่ราคาตามปัจจัยพื้นฐานที่เหมาะสม และเมื่อนักลงทุนต่างประเทศเข้ามาซื้อขายหุ้นในตลาดบ้านเรา ราคาหุ้นเหล่านี้น่าจะได้รับผลกระทบที่น้อยกว่า ไม่ว่าบวกหรือลบ
นายวศิน วัฒนวรกิจกุล กรรมการผู้จัดการ กลุ่มธุรกิจกองทุนรวม บลจ.บัวหลวง กล่าวว่า “กองทุน B-SM-RMF นี้ เหมาะกับนักลงทุนที่คาดหวังผลตอบแทนจากการลงทุนระยะยาวด้วยการเข้ามาร่วมเป็นเจ้าของกิจการขนาดเล็กและขนาดกลาง ซึ่งการเป็นเจ้าของกิจการก็คือการลงทุนที่มีกรอบระยะยาวนาน โดยมีเป้าหมายที่ผลตอบแทนอันเป็นกอบเป็นกำในอนาคต ส่วนเรื่องสิทธิประโยชน์สำหรับการลดหย่อนภาษีก็คล้ายกับได้โบนัสเนื่องจากเป็นกองทุน RMF