สำนักข่าวเดียวโดรายงานว่า ดัชนีนิกเกอิร่วงลง 135.74 จุด หรือ 1.51% ปิดที่ 8,837.15 จุด ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 17 ต.ค.
หุ้นกลุ่มผู้ผลิตกระดาษ กลุ่มผู้ผลิตเหล็ก และกลุ่มเหมืองแร่ ดึงตลาดร่วงลง ขณะที่หุ้นกลุ่มสาธารณูปโภคเป็นหุ้นเพียงกลุ่มเดียวที่ปิดบวกในวันนี้
ดัชนิกเกอิร่วงลงอย่างรวดเร็วในช่วงบ่าย โดยในระหว่างวันได้ปรับตัวลงถึง 163 จุด เนื่องจากเงินเยนแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐและยูโร นอกจากนี้ ดัชนีนิกเกอิยังได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของตลาดหุ้นเอเชีย
ส่วนในช่วงเช้านั้น ตลาดหุ้นโตเกียวได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงอย่างหนักของตลาดหุ้นสหรัฐและยุโรป หลังจากประธานาธิบดีบารัค โอบามา ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีเป็นสมัยที่ 2 และหลังจากญี่ปุ่นเปิดเผยว่ายอดสั่งซื้อเครื่องจักรพื้นฐานของภาคเอกชนเดือนก.ย. หดตัวลง 4.3% ในเดือนก.ย. จากเดือนส.ค. มาอยู่ที่ระดับ 6.862 แสนล้านเยน ซึ่งเป็นสถิติที่ปรับตัวลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 2
หุ้นแคนน่อน ร่วงลง 2.5% ขณะที่หุ้นริโก้ ดิ่งลง 1.4% เพราะได้รับแรงกดดันจากเงินยูโรที่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยน โดยบริษัททั้งสองได้เข้าไปลงทุนค่อนข้างมากในตลาดยุโรป
อย่างไรก็ตาม หุ้นอีซูซุพุ่งขึ้น 4.7% หลังจากบริษัทปรับเพิ่มคาดการณ์ผลกำไรสุทธิในรอบปีที่สิ้นสุดเดือนมี.ค.ขึ้น 1 หมื่นล้านเยน มาอยู่ที่ 9.1 หมื่นล้านเยน