ทั้งนี้ ในปีนี้บริษัทได้รับประโยชน์จากความต้องการที่เพิ่มขึ้นของกลุ่มลูกค้าอุตสาหกรรม และยอดนำหน่ายไฟฟ้าให้แก่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.ปที่เพิ่มขึ้นจากโรงไฟฟ้าห้วยเหาะที่มีปริมาณน้ำฝนอยู่ในเกณฑ์ดี รวมถึงสัญญาซื้อขายไฟฟ้าผู้ผลิตไฟฟ้ารายเล็กฉบับใหม่กับ กฟผ.ที่ได้เริ่มดำเนินงานเชิงพาณิชย์ไปแล้วในเดือนมิถุนายน 2555 นอกจากนี้ โรงไฟฟ้าเก็คโค่-วันที่ใช้ถ่านหินเป็นเชื้อเพลิงภายใต้สัญญาผู้ผลิตไฟฟ้าเอกชนรายใหญ่ขนาด 660 เมกะวัตต์ ได้เริ่มดำเนินการผลิตอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เดือนสิงหาคมเป็นต้นมา
สำหรับผลประกอบการในไตรมาส 3/55 มีรายได้รวม 15,609 ล้านบาท กำไรก่อนดอกเบี้ยจ่ายภาษีเงินได้และค่าเสื่อมราคา(EBITDA) 3,686 ล้านบาท กำไรสุทธิก่อนรวมกำไรหรือขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนสุทธิ(NNP)จำนวน 1,492 ล้านบาท และกำไรสุทธิ จำนวน 1,885 ล้านบาท
ขณะที่ช่วง 9 เดือนแรกของปี 2555 บริษัทมีรายได้รวม 41,085 ล้านบาท กำไรก่อนดอกเบี้ยจ่ายภาษีเงินได้และค่าเสื่อมราคา (EBITDA) 9,137 ล้านบาท กำไรสุทธิก่อนรวมกำไรหรือขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนสุทธิ (NNP) จำนวน 3,593 ล้านบาท และกำไรสุทธิ จำนวน 3,981 ล้านบาท เป็นผลจากยอดจำหน่ายของโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนร่วมและไอน้ำ ปรับตัวเพิ่มขึ้นในทุกกลุ่มของธุรกิจ ยอดจำหน่ายไฟฟ้าและไอน้ำให้แก่ลูกค้าอุตสาหกรรม เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของ ปี 2554 เพิ่มขึ้น 10% และ 21% ตามลำดับ ในขณะที่ยอดจำหน่ายไฟฟ้าให้กับกฟผ. ภายใต้สัญญาซื้อขายไฟฟ้าผู้ผลิตไฟฟ้ารายเล็ก ปรับตัวเพิ่มขึ้น 31%
อนึ่ง โรงไฟฟ้าเก็คโค่-วัน ได้เริ่มดำเนินการผลิตในวันที่ 19 สิงหาคม 2555