อย่างไรก็ตาม กสทช.จะต้องรอคำสั่งจากศาลปกครองกลางเท่านั้น โดยหลังจากนี้หากศาลพิจารณารับเรื่องดังกล่าว ขั้นตอนต่อไป กสทช.จะต้องเตรียมตัวเพื่อไปให้ปากคำ
"เข้าใจกระบวนการทำงานที่ผู้ตรวจการแผ่นดินจะต้องเดินตามขบวนการในการยื่นเรื่องต่อศาล โดย กสทช.ก็จะต้องรอคำสั่งจากศาลว่ารับเรื่องไว้ไต่สวนหรือไม่ ซึ่งหากศาลสั่งคุ้มครองชั่วคราวด้วยการระงับการออกไลเซ่นส์ 3จี เราก็ต้องหยุด เราก็ไม่สามารถออกไลเซ่นส์ให้ตามกำหนด 90 วัน ซึ่งผู้ประกอบการโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่เข้าร่วมประมูลและได้จ่ายเงินประมูล 50% มาแล้วก็ไม่สามารถฟ้องต่อ กสทช.ได้ เนื่องจากเป็นคำสั่งศาล ไม่ใช่เป็นการดำเนินการของกสทช.ที่ไม่สามารถออกไลเซ่นส์ให้เองได้" พ.อ.เศรษฐพงค์ กล่าว
นอกจากนี้ แม้ว่าขั้นตอนการตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ของคณะกรรมการ กทค.ในการประมูล 3จี ครั้งนี้ยังดำเนินการอยู่ หากที่สุดแล้วสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) จะระบุว่า กทค.มีความผิดหรือไม่นั้น ทุกอย่างก็ต้องรอให้ศาลปกครองเป็นผู้ตัดสิน
"ไม่มีความกังวลต่อเรื่องดังกล่าวและไม่คิดจะลาออก เนื่องจากได้อาสามาทำงานแล้วจะต้องทำภารกิจให้เสร็จสิ้น การลาออกไม่ใช่การแก้ปัญหาแต่คิดว่าเป็นการหนีปัญหามากกว่า"พ.อ.เศรษฐพงศ์ กล่าว
นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการ กสทช. เปิดเผยว่า ในวันพรุ่งนี้ (9 พ.ย.55) กสทช.จะแถลงข่าวอย่างเป็นทางการอีกครั้ง แต่เบื้องต้นจะขอรอฟังผลการวินิจฉัยของศาลปกครองก่อน ซึ่งขณะนี้คณะกรรมการกสทช.ทั้ง 4 คน ที่รับผิดชอบเกี่ยวกับการจัดการประมูล รับทราบเรื่องแล้ว แต่ยังไม่ได้แสดงท่าทีใดๆ